แนวทางการให้ความช่วยเหลือในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ

       บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ใช้แทนเงินสด เพื่อใช้รับสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการจากรัฐบาล สามารถใช้ชำระเงินได้ 2 รูปแบบคือ

1.เงินสวัสดิการจากรัฐบาล

    • รัฐให้วงเงิน การใช้จ่ายแยกตามสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากช่องทางและร้านค้าที่กำหนดไม่สามารถกดเป็นเงินสดออกมาได้ 
    • วงเงินที่รัฐบาลมอบให้ผู้ถือบัตรในทุกๆเดือน เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายตามสิทธิประโยชน์ที่กำหนด
    • โดยทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน (ยกเว้นวงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม ทุกวันที่ 1 ของทุก 3 เดือน) วงเงินจะถูกปรับเป็นค่าเริ่มต้นของวงเงินแต่ละสวัสดิการเสมอ
    • วงเงินคงเหลือของเดือนที่ผ่านมาจะไม่มีการสะสมในเดือนถัดไป

2.เงินในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) 

    • ผู้ถือบัตรสามารถเติมเงินเข้าบัตรเพื่อการใช้จ่ายที่ปลอดภัยไม่ต้องถือเงินสด ไม่ต้องนับเงินทอน
    • เมื่อเติมเงินเข้าบัตรแล้ว สามารถถอนเงินสดผ่านตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทยโดยไม่มีค่าธรรมเนียมได้ หรือรัฐบาลเติมเงินเข้าบัตรให้ผู้มีสิทธิ์ได้ เช่น การจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย 
    • เงินในส่วนนี้จะไม่มีการตัดยอด สามารถสะสมในเดือนถัดไปได้ 
    • กรณีค่าใช้จ่ายมากกว่าวงเงินสวัสดิการจากรัฐบาล ผู้ถือบัตรสามารถเติมเงินในบัตรเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ได้ทันที เงินในบัตรสามารถทำธุรกรรมฝาก ถอน โอน ผ่านตู้ ATM / ADM ของธนาคารกรุงไทยได้ 
    • การถอนเงินสดจากตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย วงเงินขั้นต่ำที่จะถอนจาก ATM ได้ คือ 100 บาท 

ข้อควรทราบ 

    • วงเงินจากรัฐบาลในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้ได้ในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐเท่านั้น (ตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ร้านธงฟ้าทั่วประเทศ 
    • วงเงินในกระเป๋า e-Money สามารถใช้ได้ทั้งร้านค้าธงฟ้า ห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ โดยให้สอบถามกับทางห้างฯ และร้านสะดวกซื้อก่อนใช้บริการเนื่องจากบางสาขายังไม่เปิดให้บริการ

เงินสวัสดิการจากรัฐบาล

1. ค่าซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็น

1.1 ผู้ที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาท/ปี

    • สิทธิประโยชน์ 200 บาท/เดือน **
    • ระยะเวลาการโอนเงิน เงินจะเข้าภายในวันที่ 1 ของเดือน

1.2 ผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี

    • สิทธิประโยชน์ 300 บาท/เดือน **
    • ระยะเวลาการโอนเงิน เงินจะเข้าภายในวันที่ 1 ของเดือน

การใช้สิทธิ

    • บุคคลทั่วไป ใช้สิทธิด้วยตนเอง 1 คนต่อ 1 บัตรต่อ 1 สิทธิ กรณีซื้อสินค้ามากกว่าวงเงินสวัสดิการที่ได้รับผู้มีสิทธิต้องจ่ายเงินเพิ่มเอง เงินเข้าทุกวันที่ 1 ของเดือน 
    • ผู้พิการ ให้ผู้ดูแลที่มีชื่อปรากฏอยู่ในบัตรประจำตัวผู้พิการเป็นผู้ใช้สิทธิแทนได้ โดยผู้ขายต้องตรวจสอบผู้ที่ใช้สิทธิแทนจากบัตรประจำตัวผู้พิการที่ระบุชื่อผู้ดูแล และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ดูแล ก่อนชำระค่าสินค้าด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (1 คนต่อ 1 บัตรต่อ 1 สิทธิ)
    • ผู้สูงอายุ ให้ผู้ดูแลเป็นผู้ใช้สิทธิแทนได้ โดยผู้ขายต้องตรวจสอบผู้ที่ใช้สิทธิแทน จากใบมอบฉันทะ บัตรประจำตัวประชาชนของผู้สูงอายุ และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ดูแลก่อนชำระค่าสินค้าด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (1 คนต่อ 1 บัตร ต่อ 1 สิทธิ)
    • ผู้ป่วยติดเตียง ให้ผู้ดูแลเป็นผู้ใช้สิทธิแทนได้ โดยผู้ขายต้องตรวจสอบผู้ที่ใช้สิทธิแทน จากใบมอบฉันทะ บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ป่วยติดเตียง และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ดูแล ก่อนชำระค่าสินค้าด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (1 คน ต่อ 1 บัตรต่อ 1 สิทธิ)

2. วงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม (ต่อ 3 เดือน)

สิทธิประโยชน์

    • 45 บาท/3 เดือน
    • 100 บาท / เดือน (เฉพาะร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร)

การใช้สิทธิ

    • บุคคลทั่วไป ใช้สิทธิด้วยตนเอง 1 คนต่อ 1 บัตรต่อ 1 สิทธิ สำหรับค่าก๊าซหุงต้มส่วนที่เกิน 45 บาท ผู้มีสิทธิต้องจ่ายเงินเพิ่มเอง เงินเข้าทุกวันที่ 1 ของทุก 3 เดือน
    • เฉพาะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร จะได้รับเงินส่วนลด 100 บาทต่อเดือนสำหรับใช้สิทธิซื้อก๊าซหุงต้มปตท.จากร้านค้าธงฟ้าที่มีเครื่อง EDC เงินเข้าทุกวันที่ 1
    • ผู้พิการ ให้ผู้ดูแลที่มีชื่อปรากฏอยู่ในบัตรประจำตัวผู้พิการเป็นผู้ใช้สิทธิแทนได้ โดยผู้ขายต้องตรวจสอบผู้ที่ใช้สิทธิแทนจากบัตรประจำตัวผู้พิการที่ระบุชื่อผู้ดูแล และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ดูแล ก่อนชำระค่าสินค้าด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (1 คนต่อ 1 บัตรต่อ 1 สิทธิ)
    • ผู้สูงอายุ ให้ผู้ดูแลเป็นผู้ใช้สิทธิแทนได้ โดยผู้ขายต้องตรวจสอบผู้ที่ใช้สิทธิแทน จากใบมอบฉันทะ บัตรประจำตัวประชาชนของผู้สูงอายุ และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ดูแลก่อนชำระค่าสินค้าด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (1 คนต่อ 1 บัตร ต่อ 1 สิทธิ)
    • ผู้ป่วยติดเตียง ให้ผู้ดูแลเป็นผู้ใช้สิทธิแทนได้ โดยผู้ขายต้องตรวจสอบผู้ที่ใช้สิทธิแทน จากใบมอบฉันทะ บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ป่วยติดเตียง และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ดูแล ก่อนชำระค่าสินค้าด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (1 คน ต่อ 1 บัตรต่อ 1 สิทธิ)

ร้านค้าก๊าซที่กระทรวงพลังงานกำหนด

    • ตรวจสอบรายชื่อร้านค้าก๊าซที่ได้รับการวางเครื่องรับบัตร EDC ที่เว็บไซต์กรมธุรกิจพลังงาน http://www.doeb.go.th เลือก แนวทางการจัดประชารัฐสวัสดิการ

3. ค่าโดยสารรถ บขส. (ใช้ได้เฉพาะรถของ บขส.เท่านั้น)

สิทธิประโยชน์

    • 500 บาท/เดือน

การใช้สิทธิ

    • ใช้สิทธิด้วยตนเอง 1 คนต่อ 1 บัตรต่อ 1 สิทธิ  เงินเข้าทุกวันที่ 1 ของเดือน
    • ยื่นบัตรแสดงตนในการซื้อตั๋วโดยสารและต้องเป็นผู้เดินทางเองเท่านั้น 
    • กรณีค่าโดยสารเกินวงเงินที่ได้รับต้องจ่ายส่วนต่างเป็นเงินสดเท่านั้น 
    • สามารถเดินทางไปกับรถโดยสาร บขส. ได้ทุกมาตรฐาน ทุกเส้นทาง 
    • สามารถใช้ร่วมกับสิทธิลดหย่อนอื่น ๆ ได้ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด 
    • เมื่อซื้อตั๋วโดยสารแล้วไม่สามารถคืนตั๋วได้ทุกกรณี แต่สามารถเลื่อนการเดินทางได้ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด  

สามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่

    • ช่องจำหน่ายตั๋วของ บขส. ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร,เอกมัย,ถนนบรมราชชนนี)
    • ที่ทำการสถานีเดินรถ บขส.ทั่วประเทศ จำนวน 121 จุด

4. ค่าโดยสารรถไฟ

สิทธิประโยชน์

    • 500 บาท/เดือน

การใช้สิทธิ

  • ใช้สิทธิด้วยตนเอง 1 คนต่อ 1 บัตรต่อ 1 สิทธิ เงินเข้าทุกวันที่ 1 ของเดือน
  • สามารถใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการขึ้นรถไฟได้ทุกประเภท

5. ค่าโดยสารรถ ขสมก./รถไฟฟ้า

(บัตรที่มีสัญลักษณ์แมงมุมหลังบัตรเฉพาะในเขต กทม.และปริมณฑล)

สิทธิประโยชน์

    • 500 บาท/เดือน

การใช้สิทธิ

  • เงินเข้าทุกวันที่ 1 ของเดือน (กรณีรถไฟฟ้าสิทธิวงเงินในบัตรสามารถติดลบได้ 1 ครั้ง (ไม่เกิน -69 บาท))
  • หมายเหตุ : เฉพาะผู้ถือบัตรที่ลงทะเบียนกับหน่วยรับลงทะเบียนในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม

รถขสมก. (เฉพาะรถขสมก.ทั้งธรรมดาและรถปรับอากาศ) 

    • สามารถใช้ได้ทันทีโดยแจ้งจุดหมายปลายทางที่จะลงและแสดงบัตรให้กับพนักงาน
    • พนักงานจะระบุค่าโดยสารและนำบัตรสวัสดิการแตะที่เครื่อง EDC เพื่อหักค่าโดยสาร

รถไฟฟ้า MRT

    • ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถใช้เดินทางในระบบรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วงได้ วงเงินคนละ 500 บาทต่อเดือน เพื่อสนับสนุนภาครัฐ และช่วยเหลือแบ่งเบาค่าครองชีพในชีวิตประจำวัน โดยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่สามารถนำมาใช้เดินทางในระบบรถไฟฟ้า MRT ได้มี 2 ประเภท ได้แก่
      • แบบที่ 1 บัตรที่มีสัญลักษณ์แมงมุมด้านหลังบัตร (เวอร์ชั่น 2.0 , 2.5) สามารถแตะได้เลย ต้องนำบัตรไปลงทะเบียนที่ MRT ก่อนเพื่อเปิดการใช้งาน (ขณะนี้ปิดการลงทะเบียนแล้ว)
      • แบบที่ 2 บัตรที่มีสัญลักษณ์ Promptcard ที่หน้าบัตร (EMV 4.0) สามารถใช้ออกเหรียญโดยสารที่ห้องออกบัตรโดยสารได้ทุกสถานีของสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง

หมายเหตุ

    • กรณีรถไฟฟ้าสิทธิวงเงินในบัตรสามารถติดลบได้ 1 ครั้ง (ไม่เกิน -69 บาท)
    • กรณีไม่ได้ลงทะเบียนเพื่อเปิดการใช้งานรถไฟฟ้า MRT จะไม่สามารถใช้บริการรถไฟฟ้า MRT ได้ จะต้องทำการออกบัตรใหม่ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงการคลังยังไม่มีการประกาศกำหนดการผลิตบัตรใหม่ โดยให้รอการประกาศอีกครั้ง

รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ 

    • เริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป โดยไม่ต้องลงทะเบียนเปิดการใช้งาน
    • นำบัตรไปชำระค่าโดยสารได้ที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร ผ่านเครื่อง EDC ณ ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร 
    • ใช้ได้ทั้งบัตรเก่ารุ่น 2.0 และ 2.5 (มีสัญลักษณ์แมงมุม บนหลังบัตร) และรุ่น 4.0 (มีสัญลักษณ์คลื่นบนหลังบัตร และสัญลักษณ์คลื่นด้านหน้าบัตรบนสี่ตัวท้ายของหมายบัตร 16 หลัก)

รถไฟฟ้า BTS 

    • เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป โดยไม่ต้องลงทะเบียนเปิดการใช้งาน
    • นำบัตรไปซื้อบัตรโดยสารรถไฟฟ้า BTS ผ่านเครื่อง EDC ณ ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารฯ ทุกสถานี 
    • ใช้ได้ทั้งบัตรเก่ารุ่น 2.0 และ 2.5 (มีสัญลักษณ์แมงมุม บนหลังบัตร) และรุ่น 4.0 (มีสัญลักษณ์คลื่นบนหลังบัตร และสัญลักษณ์คลื่นด้านหน้าบัตรบนสี่ตัวท้ายของหมายบัตร 16 หลัก)
    • ซื้อตั๋วโดยสารได้ครั้งละไม่เกิน 2 ใบ สำหรับการเดินทางขาไป และขากลับ 
    • ต้องมีเงินเพื่อการเดินทางในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขั้นต่ำ 16 บาท เพื่อให้ออกตั๋วโดยสารราคาต่ำสุดได้
    • หากจำนวนเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่เพียงพอสำหรับค่าโดยสาร เจ้าหน้าที่จะออกตั๋วโดยสารราคาต่ำสุด 16 บาทให้ และให้ท่านไปจ่ายส่วนต่างด้วยเงินสด ที่สถานีปลายทาง

เงินในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)

1. มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า

**ไม่มีการตัดยอด สามารถสะสมในเดือนถัดไปได้**

ผู้ได้รับสิทธิ

    • ใบแจ้งค่าไฟฟ้าจะเป็นชื่อบุคคลใดก็ได้ ตอนชำระเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนำใบแจ้งค่าไฟฟ้า พร้อมทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปชำระเงิน ทั้งนี้ บ้านเช่าที่ติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าแยกจะไม่สามารถใช้สิทธินี้ได้กำหนดให้ 1 บ้านเลขที่ ต่อ 1 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น

การใช้สิทธิ 

    • 1 บ้านเลขที่ ต่อ 1 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
    • ต้องลงทะเบียนก่อนเพื่อรับสิทธิ ที่
      • ณ การไฟฟ้านครหลวง
      • ณ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
      • ณ กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัตหีบ

หมายเหตุ : ให้ติดต่อสอบถามก่อนว่ายังเปิดรับลงทะเบียนอยู่หรือไม่ เนื่องจากบางพื้นที่ปิดรับลงทะเบียนแล้ว

การช่วยเหลือ

    • กรณีค่าไฟฟ้า ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน ให้ใช้สิทธิค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการที่มีอยู่ในปัจจุบัน
    • แต่หากใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้สิทธิตามมาตรการนี้ในวงเงิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
    • กรณีที่ใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรฯ เป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด
    • 1 ครัวเรือนใช้ได้เพียง 1 สิทธิ

ช่องทางการชำระ 

  • ผู้มีบัตรฯ ต้องนำใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้า ไปชำระที่สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ พร้อมทั้งแสดงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยทุกสิ้นเดือนการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ จะส่งบันทึกรายชื่อผู้มีบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าภายใต้วงเงินที่กำหนดให้กรมบัญชีกลาง เพื่อที่กรมบัญชีกลางจะนำเงินจากกองทุนฯ มาจ่ายคืนผ่านบัตรฯ ในช่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (ช่อง e-Money) ให้แก่ผู้มีบัตรฯ ต่อไป

หมายเหตุ : สามารถถอนเป็นเงินสดได้ หรือซื้อสินค้าและบริการผ่านเครื่อง EDC กับร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าอื่น ๆ ที่ร่วมรายการ รวมถึงซื้อสินค้าและบริการผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินประชารัฐ

ระยะเวลาการโอนเงิน

    • ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ถึงเดือนเมษายน 2566 (ระยะเวลา 7 เดือน) เดิมสิ้นสุดกันยายน 2565)
    • เงินจะเข้าทุกๆ วันที่ 18 จนถึงเดือนเมษายน 2566 (ลงทะเบียนในเดือนใด จะได้รับเงินในเดือนถัดไป)
    • หากตรงกับวันหยุดราชการเงินจะเข้าตรงกับวันที่กำหนดโดยไม่เลื่อนการโอนเงิน
    • ทั้งนี้จะได้รับเงินช่วยเหลือย้อนหลังในเดือนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนหรือไม่ ให้ติดต่อ Callcenter บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 021092345 เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูล

2. มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา

ผู้ได้รับสิทธิ

    • ใบแจ้งค่าน้ำประปาจะเป็นชื่อบุคคลใดก็ได้ ตอนชำระเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนำใบแจ้งค่าน้ำประปา พร้อมทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปชำระเงิน

การใช้สิทธิ

    • 1 บ้านเลขที่ ต่อ 1 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
    • ต้องลงทะเบียนก่อนเพื่อรับสิทธิ ที่
      • ณ การประปานครหลวง
      • ณ การประปาส่วนภูมิภาค

หมายเหตุ : ให้ติดต่อสอบถามก่อนว่ายังเปิดรับลงทะเบียนอยู่หรือไม่ เนื่องจากบางพื้นที่ปิดรับลงทะเบียนแล้ว

ข้อจำกัด

    • บ้านเช่าที่ติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าแยกจะไม่สามารถใช้สิทธินี้ได้กำหนดให้ 1 บ้านเลขที่ ต่อ 1 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น

การช่วยเหลือ 

    • สนับสนุนค่าน้ำประปาวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
    • กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีบัตรฯ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง
    • แต่หากมีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท จะไม่ได้รับการสนับสนุนวงเงินค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาท โดยที่ผู้มีบัตรฯ จะเป็นผู้รับภาระในการชำระค่าน้ำประปาทั้งหมด
    • 1 ครัวเรือนใช้ได้เพียง 1 สิทธิ

ช่องทางการชำระ

    • ทั้งนี้ ผู้มีบัตรฯ ต้องนำใบแจ้งหนี้ค่าประปา ไปชำระที่สำนักงานการประปานครหลวง และสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค พร้อมทั้งแสดงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยทุกสิ้นเดือนการประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค จะส่งบันทึกรายชื่อผู้มีบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปา ภายใต้วงเงินที่กำหนดให้กรมบัญชีกลาง เพื่อที่กรมบัญชีกลางจะนำเงินจากกองทุนฯ มาจ่ายคืนผ่านบัตรฯ ในช่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (ช่อง e-Money) ให้แก่ผู้มีบัตรฯ ต่อไป

หมายเหตุ :  สามารถถอนเป็นเงินสดได้ หรือซื้อสินค้าและบริการผ่านเครื่อง EDC กับร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านค้าอื่น ๆ ที่ร่วมรายการ รวมถึงซื้อสินค้าและบริการผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินประชารัฐ

ระยะเวลาการโอนเงิน

    • ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 ถึงเดือนเมษายน 2566 (ระยะเวลา 7 เดือน) เดิมสิ้นสุดกันยายน 2565)
    • เงินจะเข้าทุกๆ วันที่ 18 จนถึงเดือนเมษายน 2566 (ลงทะเบียนในเดือนใด จะได้รับเงินในเดือนถัดไป)
    • หากตรงกับวันหยุดราชการเงินจะเข้าตรงกับวันที่กำหนดโดยไม่เลื่อนการโอนเงิน
    • ทั้งนี้จะได้รับเงินช่วยเหลือย้อนหลังในเดือนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนหรือไม่ ให้ติดต่อ Callcenter บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 021092345 เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูล
  • มติ ครม. 22 ก.ย. 63 (ขยายเวลาช่วยค่าไฟ-ค่าน้ำ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ออกไปอีก 1 ปี)
  • มติคณะรัฐมนตรีประจำวันที่ 1 ตุลาคม 2562 (ขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า-น้ำประปา-คืนแวต อีก 1 ปี)
  • https://www.gsb.or.th/news-events/press-releases/2561/%E0%B8%81-%E0%B8%A2/GOVBenefitsCard.aspx
  • http://home.transport.co.th/images/83/I2D4_2_2x1_-01.jpg
  • http://www.ktb.co.th/promotion/detail/714
  • เจ้าหน้าที่กรมธุรกิจพลังงาน 027944000
  • http://www.cgd.go.th/
  • เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง 022706400
  • เจ้าหน้าที่ Call center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 02-109-2345 K.อรปรีญา
  • คุณวลัยพรรณ เจ้าหน้าที่ Call center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 02-109-2345
  • คุณพงษกร เจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 022739020 ต่อ 3513
  • http://thainews.prd.go.th/website_th/news/news_detail/TNSOC6010020010013
  • เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย 1690
  • เจ้าหน้าที่ Call center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 021092345
  • http://www.cgd.go.th/cs/Satellite?blobcol=urldata&blobheadername1=Content-Type&blobheadername2=Content-Disposition&blobheadername3=filename&blobheadervalue2=inline;+filename=%22403/601/สรุปประชารัฐสวัสดิการ+v.5.pdf”&blobheadervalue3=403/601/สรุปประชารัฐสวัสดิการ+v.5.pdf&blobkey=id&blobtable=MungoBlobs&blobwhere=1438169036352&ssbinary=true