การชำระภาษีรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คนประจำปีและรถสามล้อส่วนบุคคล
หลักเกณฑ์
- การชำระภาษีรถประจำปีสามารถให้บุคคลอื่นไปดำเนินการแทนได้โดยไม่ต้องมอบอำนาจ โดยอายุภาษีของรถกับหลักฐานการประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.) จะต้องหมดตรงกันในปีถัดไปหรือต้องมีอายุมากกว่าภาษีประจำปีของรถ และการชำระภาษีรถประจำปีสามารถชำระล่วงหน้าได้ 3 เดือน (กรณี พ.ร.บ.ยังไม่ขาดอายุ พ.ร.บ.จะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 90 วัน ถึงจะสามารถนำมาชำระภาษีรถยนต์ได้ แต่ถ้า พ.ร.บ.มีอายุน้อยกว่า 90 วัน จะต้องซื้อพ.ร.บ.ใหม่)
หลักเกณฑ์การนำรถเข้าตรวจสภาพ
- รถยนต์ ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปี ( นำรถเข้าตรวจสภาพที่ ตรอ. เท่านั้น)
- รถยนต์ ที่อายุการใช้งานยังไม่ครบ หรือครบกำหนดตรวจสภาพ กำหนดตรวจสภาพ มีการค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี (นำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่ง หรือ ตรอ.)
- รถยนต์ ที่อายุการใช้งานยังไม่ครบกำหนดตรวจสภาพ มีการค้างชำระภาษี แต่ไม่เกิน 1 ปี ไม่ต้องนำรถไปตรวจสภาพ ทำเรื่องชำระภาษีเพียงอย่างเดียว
- กรณีมีการค้างชำระเกิน 3 ปี ตรวจสภาพที่ สำนักงานขนส่งเท่านั้น ( ใช้ข้อมูลหัวข้อการชำระภาษีรถค้างเกิน 3 ปี )
- ยกเว้นกรณีเป็นรถที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ตรวจสภาพกับนายทะเบียน เช่น กรณีการขอโอน พร้อมชำระภาษี เปลี่ยนสี เปลี่ยนเครื่อง พร้อมขอเสียภาษี ให้นำรถเข้าตรวจสภาพกับหน่วยงานของกรมการขนส่งได้เลย
เอกสารหลักฐาน
- สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ ( สำเนาสมุดคู่มือจดทะเบียนรถก็ได้ ทั่วประเทศ )
- หลักฐานการประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 (เช่น ใบเสร็จรับเงิน หรือ ตารางกรมธรรม์ )
- ใบรับรองการตรวจสภาพรถ ต.ร.อ. สำหรับรถที่กำหนดให้ผ่านการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชนก่อน อายุทะเบียนครบ 7 ปีขึ้นไป
- ในกรณีที่ชำระภาษีช้าให้คิดอัตราเงินเพิ่มภาษี เป็น ร้อยละ 1 ต่อเดือน จนถึงวันที่ชำระ
อัตราภาษี
ให้เก็บภาษีตามน้ำหนักรถ ในอัตราดังต่อไปนี้
(ก) | น้ำหนักไม่เกิน 500 กิโลกรัม | คันละ 150 บาท |
(ข) | น้ำหนักตั้งแต่ 501-750 กิโลกรัม | คันละ 300 บาท |
(ค) | น้ำหนักตั้งแต่ 751-1,000 กิโลกรัม | คันละ 450 บาท |
(ง) | น้ำหนักตั้งแต่ 1,000-1,250 กิโลกรัม | คันละ 800 บาท |
(จ) | น้ำหนักตั้งแต่ 1,251-1,500 กิโลกรัม | คันละ 1,000 บาท |
(ฉ) | น้ำหนักตั้งแต่ 1,501-1,750 กิโลกรัม | คันละ 1,300 บาท |
(ช) | น้ำหนักตั้งแต่ 1,751-2,000 กิโลกรัม | คันละ 1,600 บาท |
(ซ) | น้ำหนักตั้งแต่ 2,001-2,500 กิโลกรัม | คันละ 1,900 บาท |
(ฌ) | น้ำหนักตั้งแต่ 2,501-3,000 กิโลกรัม | คันละ 2,200 บาท |
(ญ) | น้ำหนักตั้งแต่ 3,001-3,500 กิโลกรัม | คันละ 2,400 บาท |
(ฎ) | น้ำหนักตั้งแต่ 3,501-4,000 กิโลกรัม | คันละ 2,600 บาท |
(ฏ) | น้ำหนักตั้งแต่ 4,001-4,500 กิโลกรัม | คันละ 2,800 บาท |
(ฐ) | น้ำหนักตั้งแต่ 4,501-5,000 กิโลกรัม | คันละ 3,000 บาท |
(ฑ) | น้ำหนักตั้งแต่ 5,001-6,000 กิโลกรัม | คันละ 3,200 บาท |
(ฒ) | น้ำหนักตั้งแต่ 6,001-7,000 กิโลกรัม | คันละ 3,400 บาท |
(ณ) | น้ำหนักตั้งแต่ 7,001 กิโลกรัม ขึ้นไป | คันละ 3,600 บาท |
อัตราโทษปรับ
- ชำระภาษีล่าช้า ปรับ ร้อยละ 1 ต่อเดือนจนถึงวันชำระ
สถานที่ชำระภาษีประจำปี
หน่วยงานที่รับผิดชอบ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม
ที่มา https://www.dlt.go.th/
Post Views: 1,066