ขออนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์

ขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์

  • การขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการออกใบอนุญาตในการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง การครอบครองและการนำเคลื่อนที่เพื่อการค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2551 ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
  • สำหรับผู้ใดประสงค์จะมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ ตามกฎกระทรวงกำหนดชนิดของสัตว์ป่าคุ้มครองให้เป็นสัตว์ป่าที่เพาะพันธุ์ได้ พ.ศ. 2546 และกฎกระทรวงกำหนดชนิดของสัตว์ป่าคุ้มครองให้เป็นสัตว์ป่าที่เพาะพันธุ์ได้ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 ซึ่งมี 61 ชนิดต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี ซึ่งสามารถขออนุญาต ครอบครองได้ตามกฎหมายหากได้มาจากการเพาะพันธุ์ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์พร้อมด้วยหลักฐานตามที่ระบุไว้ในคำขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ทั้งนี้ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ให้ใช้แบบ สป. 15 และให้มีอายุไม่เกิน 3 ปีนับแต่วันออกใบอนุญาต
  • กรณีผู้ได้รับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ไม่สามารถมารับใบอนุญาตฯได้ด้วยตนเอง จะต้องดำเนินการมอบอำนาจเป็นหนังสือ ติดอากรแสตมป์ พร้อมแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยตามแบบหนังสือมอบอำนาจ
  • กรณีผู้มีอำนาจลงนามพิจารณาออกใบอนุญาตฯ มีการแจ้งผลการพิจารณาเป็นหนังสือให้แก่ผู้ได้รับอนุญาตฯ ทางไปรษณีย์ เพื่อที่จะให้ดำเนินการชำระค่าธรรมเนียมและรับใบอนุญาตฯดังกล่าวต่อไป ระยะเวลาไม่สามารถกำหนดได้แน่นอน
  1. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง)
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง)
  3. บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงานองค์การของรัฐ ( สำเนา 1 ฉบับ ) บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงานองค์การของรัฐของแต่ละหน่วยงานที่สังกัด พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  4. หนังสือเดินทาง ( สำเนา 1 ฉบับ ) กรณีผู้ขออนุญาตเป็นชาวต่างชาติ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  5. หนังสือรับรองนิติบุคคล ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
  6. หนังสือบริคนห์สนธิ ( สำเนา 1 ฉบับ ) รับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมประทับตรานิติบุคคล
  7. คำขอรับใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ (แบบ สป.14) ( ฉบับจริง 1 ฉบับ )
  8. หลักฐานการได้มาซึ่งสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ( ฉบับจริง 1 ฉบับ )
  9. หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) 1.กรณีที่ดินไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของผู้ขอรับใบอนุญาต 2.ต้องจัดทำหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ขึ้นเอง 3.แนบสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ให้ความยิมยอมพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  10. แผนที่สถานที่ครอบครอง ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ผู้ขอรับใบอนุญาตฯจะต้องดำเนินการจัดทำแผนที่สถานที่ครอบครองขึ้นเอง
  11. หนังสือมอบอำนาจ ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ผู้ขอรับใบอนุญาตฯจะต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจขึ้นเอง พร้อมติดอากรแสตมป์ และแนบสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบฯและผู้รับมอบฯ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง

ค่าธรรมเนียม

  • ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองฯ (สป.15)  50.00 บาท
  • ระยะเวลาดำเนินการ 25 วันทำการ

ขอใบแทนใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์

  • การขอใบแทนใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการออกใบอนุญาตในการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง การครอบครองและการนำเคลื่อนที่เพื่อการค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2551 ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
  • สำหรับผู้ที่ประสงค์จะขอใบแทนใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ซึ่งชำรุด เสียหาย หรือสูญหาย ให้ยื่นคำขอใบแทนใบอนุญาตพร้อมด้วยหลักฐานตามที่ระบุไว้ในคำขอใบแทนใบอนุญาต
  • ขั้นตอนการดำเนินงานตามคู่มือจะเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบครบถ้วนตามที่ระบุไว้ในคู่มือสำหรับประชาชนเรียบร้อยเเล้ว
  1. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง)
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง)
  3. บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงานองค์การของรัฐ ( สำเนา 1 ฉบับ ) บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงานองค์การของรัฐของแต่ละหน่วยงานที่สังกัด พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  4. หนังสือเดินทาง ( สำเนา 1 ฉบับ ) กรณีผู้ขออนุญาตเป็นชาวต่างชาติ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  5. หนังสือรับรองนิติบุคคล ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
  6. หนังสือบริคนห์สนธิ ( สำเนา 1 ฉบับ ) รับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมประทับตรานิติบุคคล
  7. คำขอใบแทนใบอนุญาต (แบบ สป.18) ( ฉบับจริง 1 ฉบับ )
  8. ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ (สป.15) ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) กรณีใบอนุญาตฯชำรุดหรือเสียหาย
  9. หลักฐานการแจ้งความ ต่อพนักงานสอบสวน ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) กรณีใบอนุญาตฯสูญหาย
  10. หนังสือมอบอำนาจ ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ผู้ขอรับใบแทนใบอนุญาตฯจะต้องดำเนินการจัดทำหนังสือมอบอำนาจขึ้นเอง พร้อมติดอากรแสตมป์ และแนบสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบฯและผู้รับมอบฯพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง

ค่าธรรมเนียม

  • ใบแทนใบอนุญาต หรือใบรับรอง ฉบับละ 50 บาท
  • ระยะเวลาดำเนินการ 12 วันทำการ

ขอรับโอนใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์

  • ผู้ที่ประสงค์จะรับโอนใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการออกใบอนุญาตในการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง การครอบครองและการนำเคลื่อนที่เพื่อการค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2551 ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
  • สำหรับผู้รับโอนใบอนุญาต ต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขฯ สำหรับการดำเนินกิจการที่ได้รับโอนใบอนุญาต และต้องมีความพร้อมเกี่ยวกับสถานที่ เครื่องมือและอุปกรณ์ที่จะดำเนินกิจการที่ได้รับโอนใบอนุญาต
  1. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง)
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง)
  3. บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงานองค์การของรัฐ ( สำเนา 1 ฉบับ ) บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงานองค์การของรัฐของแต่ละหน่วยงานที่สังกัด พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  4. หนังสือเดินทาง ( สำเนา 1 ฉบับ ) กรณีผู้ขออนุญาตเป็นชาวต่างชาติ
  5. หนังสือรับรองนิติบุคคล ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
  6. หนังสือบริคนห์สนธิ ( สำเนา 1 ฉบับ ) รับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมประทับตรานิติบุคคล
  7. คำขอรับโอนใบอนุญาต (แบบ สป.17) ( ฉบับจริง 1 ฉบับ )
  8. ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ (สป.15) ( ฉบับจริง 1 ฉบับ )
  9. หลักฐานการได้มาซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ( ฉบับจริง 1 ฉบับ )
  10. หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) 1.กรณีที่ดินไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของผู้ขอรับโอนใบอนุญาต 2.ต้องจัดทำหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ขึ้นเอง 3.แนบสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ให้ความยิมยอมพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  11. แผนที่สถานที่ครอบครอง ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ผู้ขอรับโอนใบอนุญาตฯจะต้องจัดทำแผนที่สถานที่ครอบครองขึ้นเอง
  12. หนังสือมอบอำนาจ ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ผู้ขอรับโอนใบอนุญาตฯจะต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจขึ้นเอง พร้อมติดอากรแสตมป์ และแนบสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบฯและผู้รับมอบฯ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง

ค่าธรรมเนียม

  • ไม่มีค่าธรรมเนียม
  • ระยะเวลาดำเนินการ 25 วันทำการ

ขอต่ออายุใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์

  • การขอต่ออายุใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ให้ปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการออกใบอนุญาตในการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง การครอบครองและการนำเคลื่อนที่เพื่อการค้าซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง และซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และการค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2551 ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
  • สำหรับผู้ที่ประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตพร้อมด้วยหลักฐานตามที่ระบุไว้ในคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนใบอนุญาตสิ้นอายุ (ครบกำหนด 3ปี) การอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต จะแสดงไว้ในรายการท้ายใบอนุญาต หรือจะออกใบอนุญาตตามแบบใบอนุญาตเดิมให้ใหม่ก็ได้ (รายละเอียดตามรายการเอกสารหลักฐานประกอบ)
  1. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง)
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง)
  3. บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงานองค์การของรัฐ ( สำเนา 1 ฉบับ ) บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงานองค์การของรัฐของแต่ละหน่วยงานที่สังกัด พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  4. หนังสือเดินทาง ( สำเนา 1 ฉบับ ) กรณีผู้ขออนุญาตเป็นชาวต่างชาติ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  5. หนังสือรับรองนิติบุคคล ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน
  6. หนังสือบริคนห์สนธิ ( สำเนา 1 ฉบับ ) รับรองสำเนาถูกต้อง พร้อมประทับตรานิติบุคคล
  7. คำขอต่ออายุใบอนุญาต (แบบ สป.16) ( ฉบับจริง 1 ฉบับ )
  8. ใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครอง ซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจาก การเพาะพันธุ์ (สป.15) ( ฉบับจริง 1 ฉบับ )
  9. หลักฐานการได้มาซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ ( ฉบับจริง 1 ฉบับ )
  10. หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) 1.กรณีที่ดินไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของผู้ขอต่อใบอนุญาต 2.ต้องจัดทำหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ขึ้นเอง 3.แนบสำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ให้ความยิมยอมพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
  11. แผนที่สถานที่ครอบครอง ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ผู้ขอต่อใบอนุญาตฯจะต้องจัดทำแผนที่สถานที่ครอบครองขึ้นเอง
  12. หนังสือมอบอำนาจ ( ฉบับจริง 1 ฉบับ ) ผู้ขอต่อใบอนุญาตฯจะต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจขึ้นเอง พร้อมติดอากรแสตมป์ และแนบสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบฯและผู้รับมอบฯ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง

ค่าธรรมเนียม

  • เท่ากับอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเดิม (50 บาท) แต่ไม่เกินครั้งละ 500 บาท
  • ระยะเวลาดำเนินการ 41 วันทำการ

ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดเพาะพันธุ์ได้ ซึ่งได้มาจากการเพาะพันธุ์ โดยไม่ได้รับอนุญาต (มาตรา 18)

พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 90 – 91

  • จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ฝ่าฝืนกฎกระทรวงฯ

  • จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ (เปรียบเทียบปรับได้)