ลักษณะคดีดังต่อไปนี้ เป็นการกําหนดรูปแบบการกระทําผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กระทําผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง กรรโชก หรือรีดเอาทรัพย์ หรือโดยประการที่น่าจะทําให้ทําให้บุคคลอื่นเสียหาย เพื่อให้เป็นไปตามพระราชกําหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.๒๕๖๖ และคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 182/2566 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2566 และใช้ในการมอบหมาย พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ รวมถึงให้มีอํานาจสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับความผิดตามลักษณะดังกล่าวของ หน่วยงานในสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ดังนี้
1. คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ ที่ไม่มีลักษณะเป็นขบวนการ
หมายความถึง คดีที่กระทําผิดโดยทุจริตหลอกลวงมาแต่ต้น ด้วยการประกาศ หรือโฆษณาขายสินค้าหรือบริการผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เชิญชวนให้ผู้เสียหายเข้าซื้อสินค้าหรือใช้บริการ
- เมื่อผู้เสียหายชําระเงินแล้ว ปรากฏว่าไม่ได้รับสินค้า หรือบริการนั้น หรือส่งสินค้าหรือบริการให้ในลักษณะที่มีเจตนาฉ้อโกง หรือส่งสินค้าให้ไม่ตรงตามโฆษณา ทั้งในด้านแหล่งกําเนิด สภาพ คุณภาพ หรือปริมาณแห่งสินค้า หรือผลิตภัณฑ์นั้นอันเป็นเท็จ
- และรวมถึง การหลอกให้ผู้ขายสินค้าในระบบออนไลน์ส่งสินค้าให้ โดยมีเจตนาตั้งแต่ต้นที่จะไม่ชําระค่าสินค้านั้น
2. คดีหลอกลวงเป็นบุคคลอื่นเพื่อยืมเงิน
หมายความถึง คดีที่กระทําผิดโดย
- นําภาพบุคคลอื่น มาใช้สร้างบัญชีในสื่อสังคมออนไลน์ปลอม หรือ
- เข้าถึงบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของบุคคลอื่น เพื่อสวมรอย หรือ
- แสดงตนให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าของบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่ถูกอ้างนั้นจริง
- แล้วได้ขอยืมเงิน หรือให้โอนเงินให้โดยอ้างเหตุต่างๆ
- เช่น คนร้ายสร้างลิงก์ปลอมหลอกเอารหัสล็อกอินแอปพลิเคชันไลน์ของ ผู้อื่น แล้วนําไลน์ของผู้นั้น ส่งข้อความขอยืมเงินจากผู้เสียหายที่เป็นเพื่อนในไลน์ของบุคคลนั้น เป็นต้น
3. คดีหลอกลวงให้รักแล้วโอนเงิน (Romance Scam)
หมายความถึง คดีที่กระทําผิดโดย
- ปลอมโพรไฟล์เป็นบุคคลอื่น
- สุ่มเข้ามาพูดคุยตีสนิทกับผู้เสียหายในระบบออนไลน์ เพื่อให้เกิดความรัก น่าสนใจ หรือน่าเชื่อถือ
- จากนั้นคนร้ายจะสร้างเรื่องราวหลอกให้ผู้เสียหายหลงเชื่อแล้วโอนเงินให้
- เช่น ปลอมโพรไฟล์ เป็นทหารอเมริกันทักมาทางเฟซบุ๊ก หรือเว็บไซต์หาคู่ พูดคุยกับผู้เสียหายจนเกิดความรัก แล้วหลอกว่าจะส่ง ของมีค่ามาให้ผู้เสียหาย โดยมีผู้ร่วมขบวนการอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร หรือบริษัทขนส่ง แจ้งผู้เสียหาย ให้โอนเงินไปชําระภาษี หรืออ้างว่าเจ็บป่วยต้องใช้เงิน ให้โอนเงินไปช่วยเหลือ หรือจําเป็นต้องใช้เงินจ้างทนายความฟ้องแบ่งมรดก เป็นต้น
4. คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หรือวัตถุประสงค์อื่น ๆ
หมายความถึง คดีที่กระทําผิดโดย
- สร้างเว็บไซต์ปลอมในสื่อสังคมออนไลน์ หรือสุ่มส่งข้อความอันเป็นเท็จให้ผู้เสียหายทางโทรศัพท์ หรือวิธีการอื่นๆ
- แล้วทําให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัล หรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ
- แต่ต้องชําระค่าใช้จ่ายเป็นค่าสมาชิก ค่าธรรมเนียม หรือภาษี หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ก่อน
- เมื่อผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว ปรากฏว่าไม่ได้รับรางวัลนั้น
- และรวมถึงการฉ้อโกง กรรโชก หรือรีดเอาทรัพย์ ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ ในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การให้โอนเงินทําบุญ โดยไม่ได้นําไปทําบุญจริง หรือคนร้ายมีข้อมูลลับผู้เสียหาย หรือตัดต่อภาพผู้เสียหาย แล้วข่มขู่ให้จ่ายเงิน ไม่เช่นนั้นจะนําไปเผยแพร่ในเพจเฟซบุ๊กที่เปิดแบบสาธารณะเป็นต้น
5. คดีหลอกลวงให้กู้เงิน
หมายความถึง คดีที่กระทําผิดโดย
- สุ่มส่งข้อความ ประกาศหรือโฆษณา ในสื่อสังคมออนไลน์เชิญชวนให้ประชาชนกู้ยืมเงิน
- เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อเข้าทํารายการขอกู้ยืมเงิน คนร้ายจะอ้างว่าเงินกู้ได้รับการอนุมัติแล้ว แต่ต้องมีเงินค้ำประกันหรือเงินที่แสดงว่าสามารถผ่อนชําระได้
- จากนั้นก็จะอ้างเหตุว่าข้อมูลผิด ไม่บันทึกเหตุผลในการโอน ต้องแก้ไขสัญญา เครดิตไม่พอ บัญชีถูกล็อก เพื่อให้ผู้เสียหายจ่ายเงินเพิ่มแต่ละขั้นตอน สุดท้ายผู้เสียหายไม่ได้ทั้งเงินกู้และเงินที่โอนไปให้คนร้าย
- รวมถึงการให้กู้ยืมเงินจริง ผ่านระบบออนไลน์ แต่หักดอกเบี้ยไว้เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกําหนด และมีการทวงหนี้ในลักษณะที่เข้าข่าย กรรโชก หรือรีดเอาทรัพย์จากผู้กู้
- เช่น ผู้เสียหายได้รับข้อความสั้น (SMS) ทางโทรศัพท์ “ได้รับสิทธิกู้เงินจํานวน 30,000 บาท …ลิงก์ย่อ….” เมื่อกดลิงก์ย่อไปคุยในไลน์จะอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ ส่งลิงก์เว็บไซต์กู้เงินมา ให้กรอกข้อมูล แล้วคนร้ายจะติดต่อกลับมาแจ้งว่าได้รับการอนุมัติเงินแล้ว แต่ต้องโอนเงินค้ำประกันมาก่อน ร้อยละ 10 จากนั้นก็จะหลอกให้โอนเงินเพิ่ม เป็นต้น
6. คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทํางานหารายได้พิเศษ
หมายความถึง
- คดีที่มีการประกาศ หรือโฆษณาในสื่อสังคมออนไลน์ สุ่มส่งข้อความชักชวนให้ผู้เสียหายทํางานพิเศษ หรือทํากิจกรรมใด ๆ ในระบบออนไลน์เพื่อสร้างรายได้ หรือค่าตอบแทน แต่ผู้เสียหายต้องซื้อแพ็กเกจเพื่อค้ำประกันทํางาน หรือค่าใช้จ่ายอื่นก่อน
- เมื่อผู้เสียหายซื้อแพ็กเกจทํางานหรือทํากิจกรรมแล้ว ครั้งแรก ๆ อาจได้ผลตอบแทนจริง แต่เมื่อจ่ายเงินสูงขึ้นเพื่อรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ก็จะไม่ได้รับค่าตอบแทนและเงินทุนคืน
- เช่น คนร้ายได้ส่งข้อความชักชวน ทํางานหารายได้พิเศษหลังเลิกงานประจําในสื่อสังคมออนไลน์ โดยให้ทํางานเพียงกดไลก์ (Like) หรือแชร์ (Share) หรือเพิ่มยอดผู้ชม (View) ในเว็บไซต์ขายสินค้า ก็จะมีรายได้ต่อวันตามจํานวนเงินที่ซื้อแพ็กเกจทํางาน หรือทําสต็อกสินค้าคงคลัง โดยให้ผลตอบแทนร้อยละ ๒๐ แต่ต้องลงทุนซื้อสินค้า 4 ขั้นตอน ซึ่งต้องจ่ายเงิน เพิ่มเข้าไป 4 ครั้ง แล้วถอนเงินคืนไม่ได้ เป็นต้น
7. คดีข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน (Call Center)
หมายความถึง
- คดีที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ หรือโทรผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (Voice over Internet Protocol หรือ VoIP) สุ่มติดต่อไปยังผู้เสียหาย
- สร้างเรื่องหลอกลวง อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ข่มขู่ผู้เสียหายให้เกิดความกลัว เกี่ยวกับการกระทําผิดต่างๆ และเพื่อเป็นการช่วยเหลือไม่ให้ถูกดําเนินคดี ให้โอนเงินไปทําการตรวจสอบแทน
- เช่น อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจ จับกุมคนร้ายเกี่ยวกับยาเสพติดได้ แล้วมีการซัดทอดว่าผู้เสียหายเป็นผู้รับโอนเงิน จากผู้ค้ายาเสพติด และขอตรวจสอบทางการเงินโดยให้โอนเงินไปตรวจสอบ เป็นต้น
8. คดีที่กระทําต่อระบบหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยผิดกฎหมาย (Hacking) เพื่อให้ได้ไป ซึ่งทรัพย์
หมายความถึง
- คดีที่มีการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ล่วงรู้รหัสผ่านบัญชีของผู้อื่นแล้วนําไปเปิดเผย การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ การส่งสแปมเมล (Spam mail) แก้ไข ดัดแปลง ก่อกวน หรือจําหน่ายเผยแพร่ ชุดคําสั่ง ระบบหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และทําให้เกิดความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใด อันมีลักษณะเป็นการฉ้อโกง กรรโชก หรือรีดเอาทรัพย์ หรือทําให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสียหายเกี่ยวกับทรัพย์สิน
- เช่น การเข้าถึงข้อมูล e-mail บริษัท แล้วส่งไปหลอกบุคคลอื่นให้โอนเงินไปชําระค่าสินค้าไปยังบัญชีคนร้าย เป็นต้น
9. คดีที่มีการเข้ารหัสข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกรรโชก หรือรีดเอาทรัพย์ (Ransomware)
หมายความถึง
- คดีที่มีการส่งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตราย หรือมัลแวร์ (Malware) เข้ามาใน เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้เสียหาย
- ซึ่งอาจส่งมาทาง e-mail, ลิงก์ URL ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ หรือติดตั้งมากับอุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบพกพา (Flash Drive)
- โดยซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายนั้นจะทําการคัดลอก ข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้เสียหาย และเข้ารหัส หรือปิดกั้นไฟล์ข้อมูลเอกสาร รูปภาพ วิดีโอ ทําให้ ผู้เสียหายไม่สามารถเปิดไฟล์ใดๆ ได้ นอกจากต้องจ่ายค่าไถ่ให้คนร้ายเพื่อจะได้คีย์ (Key) หรือซอฟต์แวร์ในการปลดล็อก
10. คดีหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ เพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์
หมายความถึง
- คดีที่คนร้ายสุ่มโทรศัพท์มาอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐข่มขู่ให้เกิดความกลัวว่าเกี่ยวข้องกับการกระทํา ผิด หลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจะช่วยเหลือด้านภาษี ด้านการจดทะเบียนพาณิชย์ หรืออ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนจะให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ หรือสร้างข้อมูลเท็จในระบบคอมพิวเตอร์
- แล้วหลอกลวงให้ผู้เสียหาย ดาวน์โหลดลิงก์ติดตั้ง และยินยอมให้มีการควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์จากทางไกล เพื่อติดตามการทํางาน หรือเข้าดําเนินการต่างๆ ในเครื่องแทนผู้เสียหาย หรือเอาข้อมูลจากเครื่องของผู้เสียหายไปใช้โดยมิชอบ ที่มีลักษณะเป็นการฉ้อโกง กรรโชก หรือรีดเอาทรัพย์ หรือทําให้บุคคลอื่นเสียหายเกี่ยวกับทรัพย์สิน
- เช่น หลอกลวงว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ข่มขู่ผู้เสียหายว่าไม่ชําระภาษี เพื่อตรวจสอบหรือคืนภาษี ให้ผู้เสียหายดาวน์โหลดแอปพลิเคชันกรมสรรพากรปลอมที่ส่งให้ทางไลน์ ให้ใส่ข้อมูลส่วนตัวและรหัสผ่าน กดยินยอมให้เข้าควบคุมเครื่อง แล้วคนร้ายทําการถอนเงินจากบัญชีเงินฝากที่ผูกไว้กับแอปพลิเคชั่นธนาคาร ในเครื่องไป เป็นต้น
11. คดีหลอกลวงเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล
หมายความถึง
- คดีที่หลอกให้โอนสินทรัพย์ดิจิทัล ในระบบเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ทั้งในและนอกศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ผู้เสียหายมีอยู่ก่อนแล้ว หรือถูกหลอกให้ซื้อมาเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล (Crypto wallet) ของตนเอง โอนไปยังกระเป๋า เงินดิจิทัลของคนร้ายทั้งในและนอกศูนย์ซื้อขาย หรือในระบบ Peer to peer ในตลาดอื่น ๆ
- เช่น คนร้ายปลอม โพรไฟล์เป็นบุคคลอื่นที่มีความน่าเชื่อถือสุ่มส่งข้อความมาพูดคุยกับผู้เสียหายทางสื่อออนไลน์จนเกิดความ เชื่อใจ หรือความรัก แล้วชักชวนให้ไปลงทุนในตลาดซื้อขายเหรียญสกุลเงินดิจิทัลในต่างประเทศ โดยให้ซื้อ เหรียญสกุลเงินดิจิทัลจาก Bitkub แล้วโอนไปลงทุนในเว็บเทรดที่คนร้ายได้สร้างปลอมขึ้นมา เป็นต้น
12. คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์
หมายความถึง
- คดีที่มีการชักชวนให้ลงทุน ในลักษณะธุรกิจเครือข่ายหรือชักชวนเป็นรายบุคคลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ หรือปลอมโพรไฟล์ เป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือสุ่มส่งข้อความมาพูดคุยกับผู้เสียหายจนเกิดความเชื่อใจ หรือเกิดความรัก หรือจาก บุคคลที่ลงทุนอยู่ก่อนแล้ว ได้ชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนในรูปแบบต่างๆ ในเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มอื่น โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนในอัตราสูง แต่ความจริงไม่มีธุรกิจหรือกิจการที่ให้ ผลตอบแทนเช่นนั้นจริง และผู้เสียหายไม่ได้รับผลตอบแทนและเงินทุนคืน
- เช่น คนร้ายส่งข้อความมาหลอกลวง ว่าเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดบริษัท หลอกให้ผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิเคชันบริษัท แล้วให้โอนเงินไปลงทุน หรือปลอมโพรไฟล์เป็นหนุ่มนักธุรกิจ ชักชวนพูดคุยทางออนไลน์จนเกิดความรัก แล้วชวนให้ลงทุนกับเว็บเทรด ปลอม เป็นต้น
13. คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ ที่มีลักษณะเป็นขบวนการ
หมายความถึง
- คดีที่มีลักษณะการกระทําผิดตามลักษณะหลอกขายสินค้าหรือบริการ และพบความเชื่อมโยงของคนร้ายในลักษณะที่เป็นขบวนการ หรือมีผู้เสียหายเป็นจํานวนมากหลายพื้นที่ตั้งแต่ ๑๐ รายขึ้นไป
14. คดีหลอกลวงให้ลงทุนที่เป็นความผิดตามพระราชกําหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกง ประชาชน พ.ศ.2527
หมายความถึง
- คดีที่กระทําผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
- โดยมีการชักชวนให้ลงทุนในลักษณะธุรกิจเครือข่ายหรือชักชวนเป็นรายบุคคล ด้วยการโฆษณาหรือ ประกาศให้ปรากฏต่อประชาชนทั่วไป หรือปรากฏแก่บุคคลตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้เข้าร่วมลงทุน และผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินจะจ่ายให้ได้ตามกฎหมาย
- โดยการกระทําผิดดังกล่าวได้ใช้ ระบบคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ หรือช่องทางในการกระทําความผิด
- เช่น คนร้ายเปิดเพจเฟซบุ๊กชักชวนให้ ลงทุนทําฟาร์มเห็ด ให้ผลตอบแทนร้อยละ 20 ต่อเดือน แล้วปิดเว็บไซต์หลบหนีไป เป็นต้น
- ลักษณะคดีดังกล่าวนี้ให้รวมถึง
- กรณีการชักชวนประชาชนร่วมลงทุนในแชร์ออนไลน์ หรือออมเงิน หรือออมทองในระบบออนไลน์ ที่มีเจตนาหลอกลวงประชาชนให้เข้าเป็นสมาชิก เพื่อที่จะได้รับ ผลประโยชน์จากดอกเบี้ยในอัตราสูงกว่าสถาบันการเงินจะพึงให้ได้
- หรือเปิดวงแชร์ออนไลน์ที่ไม่มีการให้สมาชิก วงแชร์หมุนเวียนกันรับทุนกองกลางในแต่ละงวด แต่ให้รับผลตอบแทนตามที่วงแชร์กําหนดไว้
- เช่น การเปิด วงแชร์ 10 วง หลอกผู้เสียหายกว่า 10 คน ลงเงินเพื่อรอรับดอกเบี้ยร้อยละ 50 ของเงินต้น เมื่อถึงงวดที่ได้ ท้าวแชร์ปิดเพจหนีไป หรือเปิดแชร์ออมเงิน ให้ผลตอบแทนสมาชิกร้อยละ 20 แล้วปิดเพจหลบหนีไป เป็นต้น
- คดีที่กระทําผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
15. คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีลักษณะอื่น นอกเหนือจาก 1 - 14
หมายความว่า
- คดีที่มีการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตามความหมายของพระราชกําหนดมาตรการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.๒๕๖๖
- แต่ไม่ได้กําหนดเป็นลักษณะคดีตามข้อ 1 – 14 ไว้