กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน

กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน

            กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน ในช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้วตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งในช่วงนี้ในหลายพื้นที่เกิดพายุฤดูร้อน ทำให้มีฝนตกหนัก มีลมแรง ดังนั้นประชาชนควรระมัดระวังการอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง ใกล้ต้นไม้สูงใหญ่ หรือป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง เพราะอาจเกิดการหักโค่นหรือหล่นทับทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ แนะนำวิธีเตรียมความพร้อม และป้องกันตนเองให้ปลอดภัย นอกจากนี้ หากพบเห็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ควรให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว โดยประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของที่เกิดเหตุ และโทรขอความช่วยเหลือจากศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน เบอร์ 1669 พร้อมแจ้งข้อมูลผู้บาดเจ็บ​และสถานที่เกิดเหตุให้ทราบ



          วันนี้ (26 พฤษภาคม 2566) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้วตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งในช่วงนี้ในหลายพื้นที่เกิดพายุฤดูร้อน ทำให้มีฝนตกหนัก มีลมแรง ดังนั้นประชาชนควรระมัดระวังการอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง ใกล้ต้นไม้สูงใหญ่ หรือป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง เพราะอาจเกิดการหักโค่นหรือหล่นทับทำให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้

สำหรับแนะนำให้ประชาชนเตรียมตัวป้องกันพายุฝน ลมแรง ควรเตรียมตัวดังนี้

1. ติดตามพยากรณ์อากาศเป็นประจำ
2. สังเกตท้องฟ้า เมื่อเห็นว่าฝนใกล้จะตกให้รีบกลับเข้าบ้านหรือหาที่หลบ
3. ตัดกิ่งไม้ หรือต้นไม้ที่อาจตกลงมาใส่ ซึ่งอาจเกิดอันตรายถึงบาดเจ็บและเสียชีวิตได้
4. ตรวจสอบอาคารบ้านเรือนให้มั่นคง แข็งแรง
5. จัดเก็บสิ่งของในบ้านที่อาจเสียหายหรือปลิวตามกระแสลม
6. ติดตั้งสายดินที่อุปกรณ์ไฟฟ้า
7. จัดเตรียมของใช้ที่จำเป็นไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เช่น ไฟฉาย ยา อาหารแห้ง เป็นต้น
8. วางแผนการเดินทางและสังเกตอาคารที่กำบังที่มีความแข็งแรง ปลอดภัย
9. เมื่อพบเห็นเสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณา ชำรุด​ หรือไม่แข็งแรงให้รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

          นายแพทย์ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกรณีที่ประชาชนพบพายุฝน ลมแรง ควรมีการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากอันตราย ดังต่อไปนี้

1. หากอยู่ในบ้านให้รีบปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิด
2. ปลดปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ออกในช่วงที่ฝนตกฟ้าคะนอง
3. หากอยู่ข้างนอกให้รีบเข้าไปในอาคารหรือหาที่กำบังที่แข็งแรง
4. หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา เสาไฟฟ้า หรืออาคารที่โครงสร้างไม่แข็งแรง
5. อยู่ห่างจากวัตถุหรือรั้วที่เป็นโลหะ
6. งดใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องมือสื่อสาร
7. หากกำลังตกปลาหรือว่ายน้ำให้ขึ้นจากน้ำทันที​ และออกห่างจาก แหล่งน้ำ
8. หากอยู่บนรถให้หาที่จอดที่ปลอดภัย
9. อยู่ภายในอาคารหรือที่กำบังอย่างน้อย 30 นาทีหลังจากพายุฝนได้สงบลง เพราะยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดฟ้าผ่า​
10. เมื่อได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ที่หมายเลข 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง


          นอกจากนี้ หากพบเห็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ควรให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว โดยประเมินสถานการณ์ความปลอดภัยของที่เกิดเหตุ และโทรขอความช่วยเหลือจากศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน เบอร์ 1669 พร้อมแจ้งข้อมูลผู้บาดเจ็บ​และสถานที่เกิดเหตุให้ทราบ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422



ที่มา : https://pr.moph.go.th/?url=pr/detail/2/02/191956/