สำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ
ผู้ผ่านเกณฑ์และยืนยีนตัวตนแล้ว
- ผู้ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (โครงการฯ) ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 (ผู้มีสิทธิฯ)
- ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติตามโครงการฯ ที่ดำเนินการยืนยันตัวตนสำเร็จระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 26 เมษายน 2566
– สามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป
– จะได้รับสิทธิย้อนหลังของเดือนเมษายน 2566
(สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าฯ เท่านั้น)
ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยังไม่ได้ดำเนินการยืนยันตัวตน
- สามารถยืนยันตัวตนตามวันเวลาที่หน่วยงานกำหนด ได้ที่
– ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
– ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
– ธนาคารออมสิน - ช่วงเวลาการยืนยันตัวตน 27 เม.ย. – 26 พ.ค. 66 วันที่เริ่มใช้สิทธิ คือ 1 มิ.ย. 66
หากยืนยันตัวตนแล้ว ได้รับสิทธิย้อนหลังได้ไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าฯ เท่านั้น) - ช่วงเวลาการยืนยันตัวตน 27 พ.ค. – 26 มิ.ย. 66 วันที่เริ่มใช้สิทธิ คือ 1 ก.ค. 66
หากยืนยันตัวตนแล้ว ได้รับสิทธิย้อนหลังได้ไม่เกิน 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่เริ่มใช้สิทธิได้ (สิทธิย้อนหลังจะให้เฉพาะวงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากร้านธงฟ้าฯ เท่านั้น) - หากท่านยืนยันตัวตน ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. 66 เป็นต้นไป วันที่เริ่มใช้สิทธิ คือ 1 ส.ค. 66
ท่านจะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง โดยจะได้รับสิทธิเฉพาะเดือนที่กระทรวงการคลังดำเนินการตั้งวงเงินให้
- สามารถยืนยันตัวตนตามวันเวลาที่หน่วยงานกำหนด ได้ที่
การยืนยันตัวตน
- ผู้ผ่านเกณฑ์จะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card)
- ต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้
- เนื่องจากการผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ล่วงหน้าจะทำให้ผู้ได้รับสิทธิโครงการฯ สะดวกในการรับสิทธิสวัสดิการหากภาครัฐมีการให้สวัสดิการเป็นเงินโอนเข้าบัญชีในอนาคต
ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จเนื่องจากการตรวจสอบสถานะบัตรประจำตัวประชาชนไม่ผ่าน
- ขอให้ผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลได้ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร
- หากตรวจสอบและแก้ไขสถานะบัตรประจำตัวประชาชนแล้ว ให้ดำเนินการยืนยันตัวตนอีกครั้ง
สำหรับการยืนยันตัวตนไม่สำเร็จที่เกิดจากกรณีเปรียบเทียบใบหน้าไม่ผ่าน
- ขอให้ผู้ที่ยืนยันตัวตนไม่สำเร็จในกรณีดังกล่าวติดต่อธนาคารกรุงไทยฯ เพื่อดำเนินการยืนยันตัวตนตามขั้นตอนของธนาคารกรุงไทยฯ ต่อไป
สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชน
1. วงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้า
- วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรม จากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และร้านอื่น ๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด
- จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน ตั้งแต่เวลา 05.00 – 23.00 น.
- ผู้มีสิทธิจะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน + กดรหัส PIN 6 หลักด้วยตนเอง
2. วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด
- จำนวน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ตั้งแต่เวลา 05.00 – 23.00 น.
- ผู้มีสิทธิจะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน + กดรหัส PIN 6 หลักด้วยตนเอง
3. วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ
- วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง 8 ประเภท ได้แก่
- รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)
- รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)
- รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (Bangkok Mass Transit System : BTS) รถไฟฟ้ามหานคร (Metropolitan Rapid Transit : MRT) และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด
- รถไฟ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ
- ผู้มีสิทธิจะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน + กดรหัส PIN 6 หลักด้วยตนเอง
- นอกจากนี้ กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเตรียมการเพิ่มเติมประเภทระบบขนส่งเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ผู้มีสิทธิฯ ได้แก่
- รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร
- รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน
- รถสองแถวรับจ้าง
- เรือโดยสารสาธารณะ
- โดยหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะแจ้งความคืบหน้าให้ประชาชนทราบต่อไป
- วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง 8 ประเภท ได้แก่
4. มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า
- อุดหนุนค่าไฟฟ้าจำนวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
- กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด
5. มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา
- อุดหนุนค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
- กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิฯ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง
- หากผู้มีสิทธิฯ มีการใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีสิทธิฯ จะเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด
หมายเหตุ สำหรับมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา
- ผู้มีสิทธิฯ ที่ประสงค์รับสิทธิในมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาจะต้องดำเนินการลงทะเบียนผ่านผู้ให้บริการดังกล่าวก่อนการเริ่มใช้สิทธิตามกรอบเวลาที่ผู้ให้บริการกำหนด ซึ่งกระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะชำระค่าบริการที่ผู้มีสิทธิฯ ได้ใช้บริการตามเงื่อนไขที่กำหนดให้แก่หน่วยงานผู้ให้บริการทั้ง 5 แห่ง ได้แก่
การลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้า
- สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เบอร์ติดต่อ 1130
หรือผ่านเว็บไซต์ https://meagate1.mea.or.th/welfareregis - สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เบอร์ติดต่อ 1129
หรือผ่านเว็บไซต์ https://welfareregis.pea.co.th - กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.)
หรือผ่านเว็บไซต์ https://walfareregis.sea.co.th
การลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปา
- สำนักงานการประปานครหลวง (กปน.) เบอร์ติดต่อ 1125
หรือผ่านเว็บไซต์ https://eservicesapp.mwa.co.th/ES/MWAWelfareServlet - สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เบอร์ติดต่อ 1662
หรือผ่านเว็บไซต์ https://register.pwa.co.th/welfare-register.html
- สำนักงานการประปานครหลวง (กปน.) เบอร์ติดต่อ 1125
- โดยผู้มีสิทธิฯ ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาก่อนแต่อย่างใด
- หากลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. และ/หรือลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิเดือนแรกคือ “ใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนเมษายน 2566” แต่หากลงทะเบียนหลังจากกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้วจะเริ่มได้รับสิทธิในเดือนถัดไปตามเงื่อนไขที่กำหนดโดยไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง
- สำหรับผู้ที่ใช้สิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561
- จะสามารถใช้สิทธิในรอบใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนมีนาคม 2566 เป็นเดือนสุดท้าย
- โดยสามารถนำใบแจ้งหนี้ค่าบริการที่ค้างชำระในช่วงที่ได้รับสิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ไปชำระเพื่อขอรับเงินสนับสนุนได้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2566
- ผู้มีสิทธิฯ ที่ประสงค์รับสิทธิในมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาจะต้องดำเนินการลงทะเบียนผ่านผู้ให้บริการดังกล่าวก่อนการเริ่มใช้สิทธิตามกรอบเวลาที่ผู้ให้บริการกำหนด ซึ่งกระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะชำระค่าบริการที่ผู้มีสิทธิฯ ได้ใช้บริการตามเงื่อนไขที่กำหนดให้แก่หน่วยงานผู้ให้บริการทั้ง 5 แห่ง ได้แก่
กรณีผู้มีสิทธิฯ มีข้อสงสัย
- สามารถติดต่อ Call Center โทร. 02 109 2345
สำหรับผู้ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ
- สำหรับผู้ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติที่ได้ดำเนินการอุทธรณ์ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการยื่นขออุทธรณ์ และได้ดำเนินการขอตรวจสอบและ/หรือขอปรับปรุงแก้ไขข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลไม่ถูกต้องให้ถูกต้องที่หน่วยงานตรวจสอบคุณสมบัติที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านเกณฑ์เรียบร้อยแล้ว
- ขอให้รอตรวจสอบผลการพิจารณาคุณสมบัติสำหรับรอบอุทธรณ์ซึ่งกระทรวงการคลังจะประกาศให้ทราบภายในเดือนมิถุนายน 2566
ติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการฯ เพิ่มเติม
- เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th
- สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
– โทร. 09 4858 9794 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.) - สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
– โทร. 02 273 9020 ต่อ 3502 3503 3506 3536 3542 3518 หรือ
– โทร. 08 5842 7102 , 08 5842 7103, 08 5842 7104 ,08 5842 7105, 08 5842 7106, 08 5842 7107 08 5842 7109 (เวลาทำการ 08.30 – 16.30 น.) - ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
– โทร. 02 109 2345 (เวลาทำการ 08.30 – 17.30 น.)
Post Views: 1,987