บอร์ดประกันสังคม เพิ่มสิทธิทำฟันผู้ประกันตน ‘ผ่าฟันคุด’ 1,500 บาท/ซี่ ‘รากฟันเทียม’ ได้ทั้งปาก
บอร์ดประกันสังคม เห็นชอบเพิ่มสิทธิประโยชน์ “รักษาฟัน” ให้ผู้ประกันตน ทั้งผ่าตัดฟันคุด ไม่เกิน 1,500 บาทต่อซี่ ทำรากฟันเทียมได้ทั้งปาก แบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ส่วนรักษาฟันในโรงพยาบาลของรัฐได้เหมือนบัตรทอง โดยประกันสังคมตามจ่ายให้ตามจริง คาดเริ่มประกาศใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2569 เป็นต้นไป ส่วนสิทธิทำฟันพื้นฐาน 900 บาทต่อปี ยังใช้ได้เหมือนเดิม
รศ. ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) ชุดที่ 14 สัดส่วนผู้ประกันตนจากทีมประกันสังคมก้าวหน้า เปิดเผยกับ “The Coverage” ตอนหนึ่งว่า ที่ประชุม บอร์ดประกันสังคม ชุดที่ 14 เมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2568 มีมติปรับปรุงสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมให้กับผู้ประกันตน โดยเห็นชอบอนุมัติสิทธิรักษาทันตกรรมเพิ่มเติม 3 รายการ และคาดว่าจะเริ่มประกาศใช้ตั้งแต่ ม.ค. 2569 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตน ตามที่มีการประกาศเตรียมปรับเพดานส่งเงินสมทบของผู้ประกันตนเพิ่มเติมในปี 2569
ทั้งนี้ สำหรับสิทธิประโยชน์ทันตกรรมให้ผู้ประกันตนที่เพิ่มใหม่มี 3 รายการ ประกอบด้วย
- สิทธิผ่าฟันคุด จ่ายชดเชยไม่เกิน 1,500 บาทต่อซี่ กรณีเพิ่มการกรอกระดูกและฟัน จ่ายไม่เกิน 2,500 บาทต่อซี่
- สิทธิรักษารากฟันเทียม จ่ายชดเชยค่าผ่าตัด 17,500 บาทต่อราย ค่าติดตามรักษาปีละ 700 บาทต่อราย และค่าอุปกรณ์ไม่เกิน 3,000 บาท
- เพิ่มวงเงินฟันเทียมถอดได้บางส่วน-ถอดได้ทั้งปาก สูงสุดไม่เกิน 6,000 บาท โดยทุกรายการผู้ประกันตนสามารถรับบริการได้ในคลินิกทันตกรรม และโรงพยาบาลของรัฐ ที่เข้าร่วมเป็นคู่สัญญาในระบบประกันสังคม
นอกจากนี้ ในส่วนงานทันตกรรมพื้นฐานของผู้ประกันตน ในส่วนบริการอุดฟัน ขูดหินปูน และถอนฟัน ยังได้รับบริการตามเดิมปีละไม่เกิน 900 บาท แต่ให้ทางคลินิกทันตกรรมตรวจสุขภาพช่องปากผู้ประกันตน พร้อมกับบันทึกข้อมูลสุขภาพช่องปากของผู้ประกันตน เพื่อส่งกลับให้กับสำนักงานประกันสังคม (สปส.)
รวมไปถึง ยังมีการรักษาพยาบาลด้านทันตกรรม รวมถึงสุขภาพช่องปากในด้านอื่นๆ ที่ผู้ประกันตนจำเป็นต้องได้รับการรักษา สามารถไปรับบริการได้ที่โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่ง สปส. จะจ่ายชดเชยตามจริงตามประกาศอัตราค่าบริการของ สธ. ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนสามารถไปรักษาทันตกรรมได้เหมือนกันกับประชาชนสิทธิบัตรทอง
“ของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ ผ่าฟันคุด รากฟันเทียม และการรักษาฟันในเรื่องอื่นๆ ที่ให้สิทธิผู้ประกันตนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลของ สธ. ได้ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยได้รับมาก่อน จะได้แค่ 900 บาทต่อปี กับบริการ ขูด อุด ถอน เท่านั้น และก็ต้องไปรับบริการที่คลินิกทำฟัน ส่วนการรักษา ก็ต้องจ่ายเอง แม้อยากจะไปต่อคิวรักษาที่โรงพยาบาลของรัฐก็ทำไม่ได้เพราะไม่มีสิทธิ แต่จากนี้ จะได้เข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลของ สธ. ได้” รศ. ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าว
เมื่อถามว่า หากผู้ประกันตนผ่าฟันคุด แล้วมีค่าใช่จ่ายเกินกว่า 1,500 บาทต่อซี่ ส่วนที่เหลือผู้ประกันตนต้องจ่ายเองหรือไม่ รศ. ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าวว่า อัตราการจ่ายชดเชยผ่าฟันคุด ไม่เกิน 1,500 บาทต่อซี่ เป็นข้อตกลงที่คลินิกทันตกรรม และโรงพยาบาลของรัฐ ที่เป็นคู่สัญญา สามารถให้บริการได้ตามราคานี้ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
เมื่อถามว่า รากฟันเทียม ผู้ประกันตนสามารถทำได้ทั้งปากหรือไม่ รศ. ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่ผู้ประกันตนไม่สามารถใช้ฟันเทียมได้ ก็จะต้องได้รับการรักษาด้วยรากฟันเทียม อย่างไรก็ตาม ผู้ประกันตนบางคนอาจมีเงื่อนไขเฉพาะที่ไม่สามารถรักษาด้วยฟันเทียมได้ แต่ต้องได้รับการรักษารากฟันเทียมทั้งปาก ก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ยืนยัน
“สิทธิทำฟันใหม่ ก็ต้องนำไปหารือ และพูดคุยกับคลินิกทันตกรรม และโรงพยาบาลของรัฐต่างๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกการเข้ารับบริการให้ผู้ประกันตน หากหน่วยบริการเหล่านี้ เห็นว่าเป็นอัตราราคาค่าใช้จ่ายที่รับได้ ก็จะชักชวนให้เข้าร่วมให้บริการผู้ประกันตน” รศ. ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าว
เมื่อถามอีกว่า หากผู้ประกันตนใช้สิทธิทำฟันพื้นฐานปีละ 900 บาท แต่มีปัญหาต้องผ่าฟันคุด สามารถไปรับบริการได้เพิ่มเติมใช่หรือไม่ รศ. ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าวว่า สามารถทำได้ เพราะเป็นสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่แยกออกมาจากสิทธิทำฟันพื้นฐานของผู้ประกันตน แต่ที่สำคัญคือ หน่วยบริการทั้งคลินิกทันตกรรม และโรงพยาบาลจะต้องไม่เรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มจากผู้ประกันตน
“เราหวังว่าจะมีคลินิกที่สนใจ และเข้าร่วมให้บริการใหม่ๆ ตามสิทธิให้กับผู้ประกันตน แม้ว่าการมาเป็นหน่วยบริการในระบบประกันสังคม อาจไม่ได้กำไรเยอะ แต่อย่างน้อย ก็จะได้ขยายบริการในคลินิกทันตกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น” รศ. ดร.ษัษฐรัมย์ กล่าวในตอนท้าย
ที่มา : Website The Coverage