การขออนุญาตเคลื่อนย้ายไม้
หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
เหตุผลที่กฎหมายต้องควบคุมการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ ก็เพื่อประสงค์ที่จะให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้ทราบว่าไม้หรือของป่าที่นำเคลื่อนที่ไปนั้น เป็นไม้หรือของป่าที่ได้มาจากที่ใดได้มาโดยวิธีใด จะนำเคลื่อนที่ไปไหน ใครเป็นผู้นำ นำไปโดยวิธีใด ฯ ทั้งนี้ เพื่อมิให้มีการนำไม้หรือของป่าที่ได้มาโดยมิชอบมาสวมรอยเข้าไปแทน หรือเพิ่มเติมเข้าไปยื่นคำร้องขออนุญาตเคลื่อนย้ายไม้ พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1.การเคลื่อนย้ายไม้โดยมีใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ (ไม้ทุกชนิดที่ยังไม่ได้แปรรูป)
เอกสารและหลักฐาน
- บัญชีรายการไม้หรือของป่า
- เอกสารหลักฐานแสดงการได้มาซึ่งไม้หรือของป่า ดังต่อไปนี้
- ถ้าเป็นไม้ที่ได้รับอนุญาตให้ทำไม้ (ไม้สัก และ ไม้ยางนา) ที่ต้องเสียค่าภาคหลวง (เงินค่าธรรมเนียมซึ่งผู้ทำไม้หรือเก็บหาของป่าจะต้องเสีย) จะต้องมี ใบเสร็จรับเงินค่าภาคหลวง
- ถ้าเป็นไม้ที่ทำได้ โดยไม่ต้องรับอนุญาต (ไม้หวงห้ามชนิดอื่น ๆ ที่มิใช่ไม้สักและไม้ยางนา รวมถึงไม้ที่ไม่ใช่ไม้หวงห้าม เช่น ไม้ไผ่ ไม้มะขาม ไม้ขนุน) ต้องมีใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียมการนำไม้เข้าเขตด่านป่าไม้ (ชำระด่านเดียว ด่านต่อไปไม่ต้องชำระ) ยกเว้น นำไปใช้สอยส่วนตัวในเขตจังหวัดเดียวกัน ไม่ต้องชำระ ค่าธรรมเนียม
- ถ้าเป็นไม้นำเข้า ต้องมีใบเสร็จรับเงินอากรขาเข้า จากกรมศุลกากร หรือหนังสือค้ำประกันของกระทรวงการคลังหรือธนาคารหรือใบขนคลังสินค้าทัณฑ์บนหรือใบขนคลังสินค้าผ่านแดน แล้วแต่กรณี
- ถ้าเป็นไม้หรือของป่าที่รับซื้อจากทางราชการป่าไม้ ต้องมีใบเสร็จรับเงินค่าขายไม้หรือของป่า แล้วแต่กรณี
- หนังสือกำกับไม้แปรรูป
- เอกสารหลักฐานอื่นที่แสดงการได้มาซึ่งไม้ เช่น โฉนดที่ดินที่ตัดไม้ ใบเสร็จรับเงินจากเจ้าของไม้ที่ซื้อมา เป็นต้น
- บัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
การกำหนดอายุใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่โดยทางรถยนต์สำหรับไม้แปรรูปและของป่า
- ให้ถือระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร ต่อ 24 ชั่วโมงเศษของ 300 กิโลเมตร ให้คิดเพิ่มอีก 24 ชั่วโมง สำหรับไม้ท่อนให้พิจารณาตามความเหมาะสม แต่ทั้งนี้จะต้องไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันที่ออกใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ และต้องนำไม้เข้าตรวจสอบระหว่างทาง ณ ด่านป่าไม้ ที่ระบุไว้ด้านหลังใบเบิกทางทุกด่าน โดยเสียค่าธรรมเนียมทุกด่านที่นำเข้า
- อัตราค่าธรรมเนียมให้ตรวจสอบที่ด่านป่าไม้ที่นำเข้า ซึ่งเจ้าหน้าด่านป่าไม้ที่จะออกใบเสร็จรับเงินให้เป็นหลักฐาน
ค่าธรรมเนียมเสียใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่
- ไม้สัก ฉบับละ 50 บาท
- ไม้ชนิดอื่น ฉบับละ 20 บาท
- ของป่า ฉบับละ 5 บาท
- ค่าธรรมเนียมทำการล่วงเวลาคิดร้อยละสิบของเงินค่าภาคหลวงที่คำนวณได้ในครั้งนั้น ๆ แต่อย่างสูงไม่เกิน 400 บาท
- ค่าธรรมเนียมหนังสืออนุญาตให้นำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ผ่านด่านป่าไม้ (ใบอนุญาตอื่นๆ) ฉบับละ 5 บาท
2.การเคลื่อนย้ายไม้โดยมีหนังสือกำกับไม้แปรรูป
หนังสือกำกับไม้แปรรูป
คือ หนังสือที่ผู้จัดตั้งโรงค้าไม้แปรรูปออกให้กับบุคคล หรือผู้ซื้อ นำไม้แปรรูปเคลื่อนที่จากสถานที่ที่ได้รับอนุญาตไปยังสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ดังนี้
- หนังสือกำกับไม้แปรรูป ถือเสมือนหนึ่งเป็นใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ (คือ ใช้แทนใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ได้) โดยให้มีอายุการใช้ได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่วันและเวลาที่ออกหนังสือกำกับไม้แปรรูปเป็นต้นไป
- หนังสือกำกับไม้แปรรูป ใช้ได้เฉพาะในเขตท้องที่จังหวัดที่ได้รับอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้หรือโรงค้าไม้แปรรูปของตนเองเท่านั้น เว้นแต่ผู้รับอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้หรือผู้รับอนุญาตตั้งโรงค้าไม้แปรรูป ซึ่งได้รับอนุญาตตั้งภายในเขตท้องที่ จังหวัดสิงห์บุรี, จังหวัดอ่างทอง, จังหวัดปทุมธานี, จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, จังหวัดนนทบุรี,กรุงเทพมหานคร, จังหวัดสมุทรสาคร, จังหวัดสมุทรสงคราม, จังหวัดนครปฐมและจังหวัดสมุทรปราการ ให้ใช้ภายในเขตท้องที่ทั้ง 10 จังหวัด นั้นได้
หมายเหตุ *กรณีจะนำไม้แปรรูปเคลื่อนที่ออกนอกเขตท้องที่ที่ได้รับอนุญาต ต้องขอรับใบเบิกทางจากด่านป่าไม้ด่านใดด่านหนึ่งในเขตจังหวัดนั้นๆก่อน*
หนังสือกำกับไม้แปรรูป
- หนังสือกำกับไม้แปรรูปให้จัดพิมพ์เป็นเล่ม เล่มละ 50 ฉบับ แต่ละฉบับมี 3 ตอน
- ตอนปลายใช้กำกับไม้แปรรูปที่นำเคลื่อนที่ หรือขนย้ายไป
- ตอนกลางให้รวบรวมส่งพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมผู้ออกใบอนุญาต ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปทุก ๆ เดือน
- ส่วนตอนต้นขั้วให้ผู้รับอนุญาตเก็บไว้ในที่ปลอดภัยในบริเวณโรงงานแปรรูปไม้ หรือโรงค้าไม้แปรรูปของผู้รับอนุญาตเป็นเวลาไม่น้อยอกว่า 2 ปี
หนังสือกำกับไม้ยางพาราแปรรูป
การออกหนังสือกำกับไม้ยางพาราแปรรูป ในการจัดตั้งโรงงานแปรรูปไม้ หรือโรงค้าไม้แปรรูปยางพารา มีลักษณะดังนี้
- ใช้เฉพาะกับผู้รับอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรเพื่อทำการแปรรูปไม้ยางพารา และโรงค้าไม้ยางพาราแปรรูป
- อายุการใช้หนังสือกำกับไม้แปรรูปใช้ได้ไม่เกิน 7 วัน
- หนังสือกำกับไม้ยางพาราแปรรูป ใช้ได้ทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ไม่ต้องแจ้งผ่านด่านป่าไม้ใด ๆ และนำผ่านด่านป่าไม้ได้ทุกเวลา
- หนังสือกำกับไม้ยางพาราแปรรูป ใช้กระดาษสีเหลืองเพื่อแตกต่างจากหนังสือกำกับไม้แปรรูปธรรมดา
3.การเคลื่อนย้ายไม้โดยออกใบอนุญาตไม้เรือนเก่า หรือไม้ที่เคยเป็นสิ่งปลูกสร้างมาแล้ว
ไม้เรือนเก่า หมายถึง ไม้ที่เคยอยู่ในสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้ และพ้นจากสภาพเป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้มาแล้วกว่า 5 ปี สำหรับไม้สักและ 2 ปี สำหรับไม้อื่นที่มิใช่ไม้สัก การเคลื่อนย้ายไม้เรือนเก่า แบ่งออกเป็น 2 กรณี ได้แก่
กรณีไม้สัก
- เอกสารและหลักฐาน
- สำเนาทะเบียนบ้านที่ขอรื้อถอน
- หลักฐานการแจ้งย้ายที่อยู่ กรณีย้ายที่อยู่
- หลักฐานการได้มาของไม้นั้น (ถ้ามี)
- หนังสือรับรองของกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านแห่งท้องที่
- เมื่อผู้รับอนุญาตนำไม้ถึงสถานที่และท้องที่กำหนดในใบอนุญาตแล้ว ต้องไปแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สำหรับกรุงเทพมหานคร ให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ป่าไม้ หรือสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประจำจังหวัด
- เอกสารและหลักฐาน
กรณีไม้กระยาเลย (หมายถึง ไม้ชนิดอื่นที่ไม่ใช่ไม้สักและไม้ยางนา)
- เอกสารและหลักฐาน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- หลักฐานการแจ้งย้าย
- หลักฐานการได้ของไม้
- หนังสือรับรองของกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านแห่งท้องที่
- เอกสารและหลักฐาน
สถานที่ติดต่อ
- กรุงเทพมหานคร ติดต่อได้ที่ กรมป่าไม้
- ต่างจังหวัด ติดต่อได้ที่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประจำท้องที่
- เวลาทำการ : วันจันทร์ – วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น.
เกร็ดความรู้
พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 การมีของป่าหวงห้ามไว้ในครอบครองเพื่อใช้สอยในครัวเรือนของตนเอง ถ้ามีไม่เกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ก็ไม่ต้องขอรับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด เช่น มีกล้วยไม้ป่าทุกชนิดไม่เกิน 20 ต้น , ชิ้นไม้กฤษณาไม่เกินครึ่งกิโลกรัม, น้ำมันยางไม่เกิน 20 ลิตร , ใบลานไม่เกิน 100 ใบ , เปลือกบง เปลือกกอบเชย ยางรัก ยางสน หวายทุกชนิดไม่เกิน 10 กิโลกรัม และถ่านไม้ทุกชนิดไม่เกิน 130 กิโลกรัม เป็นต้น
ความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้เกี่ยวกับการนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่
นำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่โดยไม่มีใบเบิกทางนำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่กำกับ
- มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 39 มาตรา 71 ทวิ
- ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นำไม้หรือของป่าเข้าเขตด่านป่าไม้ โดยไม่ได้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในกำหนด 5 วันนับแต่วันที่เข้าเขตด่าน
- มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 40 มาตรา 71 ทวิ
- ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นำไม้หรือของป่าเคลื่อนที่ผ่านด่านป่าไม้ในเวลากลางคืน โดยมิได้รับอนุญาต
- มีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 41 มาตรา 72
- ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
การออกใบเบิกทางไม้หรือของป่า
การออกใบเบิกทาง
- ข้อ 6: เมื่อต้องการขอใบเบิกทาง ให้นำคำขอพร้อมเอกสารไปยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะตรวจสอบความถูกต้องและลงทะเบียนตามลำดับ
- ข้อ 7: เอกสารแสดงว่าไม้หรือของป่าถูกต้องตามกฎหมาย ต้องเป็นไปตามกฎกระทรวง เช่น
- ใบเสร็จรับเงิน
- รายการไม้จากกรมศุลกากร
- เอกสารขายทอดตลาด
- ข้อ 8: ขั้นตอนตรวจสอบก่อนออกใบเบิกทาง
- ตรวจสอบความถูกต้องของหลักฐาน
- ตรวจสอบลักษณะไม้หรือของป่าให้ตรงตามหลักฐาน
- ประทับตรารับรองทุกท่อน/ชิ้น หรือหมายเหตุหากประทับไม่ได้
การเขียนและลงนามในใบเบิกทาง
- ข้อ 9.1 – 9.8:
- พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นผู้เขียนหรือพิมพ์ใบเบิกทาง
- ห้ามบุคคลเดียวกันเป็นทั้งผู้เขียนและผู้อนุญาต (ยกเว้นจำเป็น)
- ระบุวันหมดอายุพร้อมตัวอักษรกำกับ
- แก้ไขข้อความให้ขีดฆ่า+ลงลายมือชื่อ+ประทับตรา
- ผู้ตรวจสอบและผู้ออกใบเบิกทางต้องลงลายมือชื่อพร้อมตำแหน่ง
- ต้องลงรายละเอียดในบัญชีไม้ทุกครั้ง
การใช้ใบเบิกทาง
- ข้อ 10 – 13:
- ใช้ตรายางตามตัวอย่างที่กำหนด
- ใบเบิกทาง 1 ฉบับ ใช้กับพาหนะ 1 คัน/ลำ เท่านั้น
- เคลื่อนที่ได้ครั้งเดียว เว้นแต่มีคำสั่งพิเศษ
- อายุใบเบิกทางคำนวณตามระยะทาง (300 กม./24 ชม.)
การสลักหลังและเอกสารแนบ
- ข้อ 14 – 15:
- สลักหลังในต้นฉบับ หรือใบแทน หากไม่มี
- เอกสารแนบต้องมีสำเนาเก็บไว้
- หากนำออกนอกราชอาณาจักร ต้องระบุถึงด่านศุลกากรปลายทาง
การตรวจผ่านด่าน
- ข้อ 16:
- ตรวจสอบไม้สุ่มอย่างน้อย 20% ของจำนวน
- หากพบว่าเก็บค่าธรรมเนียมไม่ครบ ให้เรียกเก็บเพิ่มและแจ้งต้นทาง
การออกใบเบิกทางกรณีพิเศษ
- ข้อ 17:
- สำหรับไม้/ของป่าที่นำเข้า:
- ใช้เอกสารศุลกากร + ใบขนสินค้า
- ระบุชื่อไม้เป็นชื่อทับศัพท์ พร้อมชื่อประเทศ เช่น “สักพม่า”
- ตรวจสอบตามข้อ 8 โดยอนุโลม
- ข้อ 18 – 21:
- รถไฟ: ต่ออายุได้ หากใบหมดก่อนเคลื่อนย้าย
- หมอนไม้: ออกใบแยกรายหมอน
- แพไม้: ต้องระบุชื่อผู้ควบคุมและพาหนะ
- ปลายทางหลายแห่ง: ห้ามออกใบรวม
การออกใบเบิกทางใหม่
- ข้อ 22: สามารถขอใหม่ได้กรณี:
- ใบเดิมหมดอายุ
- ต้องเปลี่ยนพาหนะ/เส้นทาง/ปลายทาง
- ต้องการแบ่งไม้บางส่วน
- ต้องบันทึกเหตุผลและปฏิบัติตามหมวด 1
การออกใบแทนใบเบิกทาง
- ข้อ 23: กรณีใบเดิมสูญหาย/เสียหาย:
- ต้องแจ้งความและยื่นคำขอ
- ตรวจสอบข้อมูล และหากตรงตามจริงให้เขียนว่า “ใบแทน” พร้อมหมายเหตุ
- หากไม้เหลือไม่ครบ ต้องระบุให้ชัดเจน
การต่ออายุใบเบิกทาง
- ข้อ 24 – 25:
- ต่ออายุได้เมื่อหมดอายุในกรณีจำเป็น เช่น รถไฟ/ไม้หมอน
- ต้องยื่นคำขอก่อนหมดอายุ (ยกเว้นรถไฟ)
- ต่อได้ครั้งเดียว และรวมเวลาทั้งหมดต้องไม่เกินเวลาตามกฎหมาย
การออกใบเบิกทางโดยใช้หนังสือกำกับไม้แปรรูป
- ข้อ 31:
- ใช้หนังสือกำกับไม้แปรรูปจากโรงงานหรือผู้ขายเป็นหลักฐาน
- แนบสำเนารายการไม้กับคำขอ
- ถ้าเป็นการโอนให้บุคคลอื่น ให้นำบัญชีท้ายหนังสือกำกับมาแนบกับใบเบิกทางใหม่