กรมทางหลวงชนบท ชวนเที่ยว “เมืองแพร่” สัมผัสวิถีชาวบ้านล้านนา
กรมทางหลวงชนบท ชวนเที่ยว “เมืองแพร่” สัมผัสวิถีชาวบ้านล้านนา จังหวัดแพร่ ซึ่งถือเป็นประตูสู่เมืองล้านนาเก่าแก่ เป็นหนึ่งในจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในการท่องเที่ยวภาคเหนือ ด้วยบรรยากาศของเมืองเก่า บ้านเรือนไม้โบราณที่ให้ความรู้สึกถึงความสโลว์ไลฟ์ พร้อมความสวยงามของสถาปัตยกรรมและธรรมชาติที่บริสุทธิ์
- สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในแพร่
- วัดพระธาตุช่อแฮ – วัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่ เป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล นักท่องเที่ยวที่มาแพร่ต้องไม่พลาดการนมัสการพระธาตุช่อแฮเพื่อความเป็นสิริมงคล
- สะพานเวียงทองสองเก้าพัฒนา – สะพานเก่าแก่ที่มีทิวทัศน์สวยงามของสองชุมชนและธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงเย็นที่แสงสวยและลมเย็นสบาย เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่ไม่ควรพลาด
- สะพานสลิงริมยมเวียงทอง – สะพานคลาสสิกที่เป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจในจังหวัดแพร่
- แนะนำวัดที่ไม่ควรพลาด
- วัดทองเกศ และ วัดน้ำบ่อ เป็นอีกสองวัดที่มีสถาปัตยกรรมงดงามและเป็นจุดขอพรที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายมู
จังหวัดแพร่ ประตูสู่เมืองล้านนาเก่าแก่ที่มากไปด้วยเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์อันยาวนาน เมื่อเข้ามาถึง ตัวเมืองแพร่จะได้พบกับบรรยากาศของบ้านเรือนไม้เก่าแก่ ทำให้รู้สึกว่าแพร่ ถึงแม้เป็นเมืองเก่า มีความสโลว์ไลฟ์ แต่ยังแฝงไปด้วยความชิคนิด ๆ อีกทั้งยังได้ตระการตากับวัดวาอารามที่งดงาม มีธรรมชาติที่สวยงามและบริสุทธิ์ ทำให้เป็นอีกหนึ่งจังหวัดทางภาคเหนือที่คู่ควรแห่งการแวะเวียนมาเที่ยวสัมผัส
นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ชวนประชาชน ท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ เมืองเล็ก ๆ ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา และยังเป็นทางผ่านไปสู่หลาย ๆ จังหวัดของภาคเหนือ โดยสถานที่ท่องเที่ยวนั้นเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่หลากหลาย เมื่อมาถึง จังหวัดแพร่ต้องแวะมาที่วัดพระธาตุช่อแฮ วัดศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่ คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดแพร่และเป็นวัดพระธาตุ ประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล บุคคลใดที่มาเที่ยวแพร่แล้วจะต้องมานมัสการพระธาตุช่อแฮ เพื่อเป็นสิริมงคล ดังคำกล่าวที่ว่า ถ้ามาเที่ยวแพร่ แต่ไม่ได้มานมัสการพระธาตุช่อแฮเหมือนไม่ได้มาจังหวัดแพร่เช่นเดียว กับอำเภอสูงเม่น ที่เมื่อขับรถผ่านไปตามเส้นทางหลวงชนบทจะเจอกับสะพานเวียงทองสองเก้าพัฒนา เมื่อแวะถ่ายรูปเช็กอินกับตัวสะพานจะเห็นวิวทิวทัศน์ระหว่าง 2 ชุมชนตัดกับสีเขียวของธรรมชาติ ข้าง ๆ กับสะพานนั้นจะเห็นสะพานสลิงเก่าแก่ โดยชาวบ้านในพื้นที่เรียกแห่งนี้ว่า สะพานริมยมเวียงทอง ตัวสะพาน จะคลาสสิกมาก ๆ หากมาช่วงเย็น ลมเย็นสบายแสงสวยมาก หากนักท่องเที่ยวอยากสัมผัสชีวิตเรียบง่าย แบบชิล ๆ สามารถแวะมาถ่ายรูป check in กับสถานที่ของกรมทางหลวงชนบทได้ที่ “สะพานเวียงทองสองเก้าพัฒนา”
อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการเดินทางมาที่สะพานแห่งนี้นั้น หากนักท่องเที่ยวมาจาก จังหวัดอุตรดิตถ์หรือจังหวัดลำปางผ่านแยกเด่นชัย มุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดแพร่ ขับมาตามถนน ทล.101 เมื่อถึงบริเวณ แยกบ้านฝ้ายให้เลี้ยวซ้าย เข้าสู่ถนนยันตรกิจโกศล ขับตามเส้นทางมาประมาณ 400 เมตร จะเจอกับซุ้มประตู หมู่บ้านเวียงทอง จากนั้นเลี้ยวซ้าย และขับตรงเข้ามาบนถนนขององค์การบริหารส่วนตำบลเวียงทองอีกประมาณ 1.6 กิโลเมตร จะเจอกับสะพานเวียงทองสองเก้าพัฒนา สะพานข้ามแม่น้ำยมที่สามารถเชื่อมไปยังอีกหมู่บ้าน ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว พร้อมกับชมวิวสองข้างทางของแม่น้ำยม ถือว่าเป็นแหล่ง Unseen ของจังหวัดนี้เลยก็ว่าได้
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อไปตามเส้นทางและแวะไหว้พระขอพร ถ่ายรูปสวย ๆ เยี่ยมชมสถาปัตยกรรมอันงดงามได้ที่วัดทองเกศ และวัดน้ำบ่อ ใครสายมูห้ามพลาด 2 วัดนี้เลย หากมาที่จังหวัดแพร่ ต้องไม่พลาดแวะมาที่นี่สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย
ที่มา : https://citly.me/TwJtK