โรคที่ขัดต่อการเข้ารับราชการทหารกองประจำการ

โรคหรือสภาพร่างกายหรือสภาพจิตใจ ซึ่งไม่สามารถจะรับราชการทหารได้ตามมาตรา 41 กฎกระทรวง ฉบับที่ 74 พ.ศ. 2540 และเพิ่ม,แก้ไข ฉบับที่ 76 พ.ศ. 2555 ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497

1. โรคหรือความผิดปกติของตา

    1. ตาข้างหนึ่งข้างใดบอด คือ เมื่อรักษาและแก้สายตาด้วยแว่นแล้ว การมองเห็นยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 7/60 หรือ ลานสายตาโดยเฉลี่ยแคบกว่า 10 องศา
    2. สายตาไม่ปกติ คือ เมื่อรักษาและแก้สายตาด้วยแว่นแล้ว การมองเห็นยังอยู่ในระดับ 6/24 หรือต่ำกว่าทั้งสองข้าง
    3. สายตาสั้นมากกว่า 8 ไดออปเดอร์ หรือสายตายาวมากกว่า 5 ไดออปเดอร์ทั้งสองข้าง
    4. ต้อแก้วตาทั้งสองข้าง (Bilateral Cataract)
    5. ต้อหิน (Glaucoma)
    6. โรคขั้วประสาทตาเสื่อมทั้ง 2 ข้าง (Optic Atrophy)
    7. กระจกตาอักเสบเรื้อรังหรือขุ่นทั้งสองข้าง
    8. ประสาทการเคลื่อนไหวลูกตาไม่ทำงาน สูญเสียอย่างถาวร (Cranial nerel 3rd , 4 th , 6 th) (เพิ่มตามกฎกระทรวงฯ ที่ 76)

2. โรคหรือความผิดปกติของหู

    1. หูหนวกทั้งสองข้าง คือ ต้องใช้เสียงในช่วงคลื่นความถี่ 500 – 2,000 รอบต่อวินาทีหรือ เกินกว่า 55 เดซิเบล จึงจะได้ยินทั้งสองข้าง
    2. หูชั้นกลางอักเสบ เรื้อรังทั้งสองข้าง
    3. เยื่อแก้วหูทะลุทั้งสองข้าง

3. โรคของหัวใจและหลอดเลือด

    1. หัวใจหรือหลอดเลือดพิการอย่างถาวร จนอาจเกิดอันตรายร้ายแรง
    2. ลิ้นหัวใจพิการ
    3. การเต้นของหัวใจผิดปกติอย่างถาวร จนอาจเกิดอันตรายร้ายแรง
    4. โรคของกล้ามเนื้อหัวใจ ชนิดที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้และอาจเป็นอันตราย
    5. หลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพอง
    6. หลอดเลือดภายในกะโหลกศีรษะโป่งพองหรือผิดปกติชนิดที่อาจเป็นอันตราย

4. โรคเลือดและอวัยวะสร้างเลือด

    1. โรคเลือดหรืออวัยวะสร้างเลือดผิดปกติอย่างถาวรและอาจเป็นอันตราย
    2. ภาวะม้ามโต (Hypersplenism) ที่รักษาไม่หายและอาจเป็นอันตราย

5. โรคของระบบหายใจ (แก้ไขตามกฎกระทรวงฯ ที่ 76)

    1. โรคหืด (Asthma) ที่ได้รับการวินิจฉัยตามเกณฑ์การวินิจฉัย
    2. โรคทางปอดที่มีอาการไอ หอบเหนื่อย และมีการสูญเสียการทำงานของระบบทางเดินหายใจ โดยตรวจสอบสมรรถภาพปอดได้ค่า Forced Expiratory Volume in One second หรือ Forced Vital Capacity ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของค่ามาตรฐานตามเกณฑ์
    3. โรคความดันเลือดในปอดสูง (Pulmonary Hypertension) ซึ่งวินิจฉัยโดยการตรวจหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูง (Echocardiogram) หรือโดยการใส่สายวัดความดันเลือดในปอด
    4. โรคถุงน้ำในปอด (Lung Cyst) ที่ตรวจวินิจฉัยได้โดยภาพถ่ายรังสีทรวงอก หรือเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ปอด
    5. โรคหยุดการหายในใจขณะหลับ (Cbstructive Sleep Apnea) ซึ่งวินิจฉัยโดยการตรวจการนอนหลับ (Polysonmography)

6. โรคของระบบปัสสาวะ

    1. ไตอักเสบเรื้อรัง
    2. กลุ่มอาการไตพิการ (Nephritic Syndrome)
    3. ไตวายเรื้อรัง
    4. ไตพองเป็นถุงน้ำแต่กำเนิด (Polycystic Kidney)

7. โรคหรือความผิดปกติของกระดูก ข้อ และกล้ามเนื้อ

    1. โรคข้อหรือความผิดปกติของข้อ ดังต่อไปนี้ (แก้ไขตามกฎกระทรวงฯ ที่ 76)
      • ข้ออักเสบเรื้อรัง (Chronic arthritis)
      • ข้อเสื่อมเรื้อรัง (Chronic osteoarthritis)
      • โรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบเรื้อรัง (Spondyloaethropathy)
    2. แขน ขา มือ เท้า นิ้ว อย่างใดอย่างหนึ่งผิดปกติ ดังต่อไปนี้
      • แขน ขา มือ หรือเท้าด้วน หรือพิการถึงแม้ว่าจะรักษาด้วยวิธีใหม่ที่สุดแล้วก็ยังใช้การไม่ได้
      • นิ้วหัวแม่มือด้วนจนถึงข้อปลายนิ้ว หรือพิการถึงขั้นใช้การไม่ได้
      • นิ้วชี้ของมือด้วนตั้งแต่ข้อปลายนิ้ว
      • นิ้วมือในมือข้างเดียวกันตั้งแต่สองนิ้วขึ้นไปด้วนจนถึงข้อปลายนิ้ว หรือพิการถึงขั้นใช้การไม่ได้
      • นิ้วหัวแม่เท้าด้วนจนถึงข้อปลายนิ้ว หรือพิการถึงขั้นใช้การไม่ได้
      • นิ้วเท้าในเท้าข้างเดียวกันตั้งแต่สองนิ้วขึ้นไปด้วนจนถึงข้อปลายนิ้ว หรือการถึงขั้นใช้การไม่ได้
      • นิ้วเท้าในเท้าแต่ละข้างตั้งแต่หนึ่งนิ้วขึ้นไปด้วนจนถึงข้อปลายนิ้ว หรือพิการถึงขั้นใช้การไม่ได้
      • นิ้วเท้าในเท้าข้างใดข้างหนึ่งตั้งแต่หนึ่งนิ้วขึ้นไปด้วนจนถึงข้อโคนนิ้วหรือพิการถึงขั้นใช้การไม่ได้
    3. คอเอียงหรือแข็งทื่อชนิดถาวร
    4. กระดูกสันหลังโก่ง หรือคด หรือแอ่นจนเห็นได้ชัดหรือแข็งทื่อชนิดถาวร
    5. กล้ามเนื้อเหี่ยวลีบ หรือหดสั้น (Atrophy or Contracture) จนเป็นผลให้อวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใดใช้การไม่ได้

8. โรคของต่อมไร้ท่อและภาวะผิดปกติของเมตะบอลิสัม

    1. ภาวะต่อมธัยรอยด์ทำงานน้อยไปอย่างถาวร
    2. ภาวะต่อมพาราธัยรอยด์ทำงานน้อยไปอย่างถาวร
    3. ภาวะต่อมใต้สมองผิดปกติอย่างถาวร
    4. เบาหวาน
    5. ภาวะอ้วน (Obesity) ซึ่งมีค่าดัชนีความหนาของร่างกาย (Body Massindex) ตั้งแต่ 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตรขึ้นไป
    6. โรคหรือความผิดปกติเกี่ยวกับเมตะบอลิสัมของแร่ธาตุ สารอาหารดุลย์สารน้ำอีเล็กโทรลัยท์ และกรดด่าง ตลอดจนเมตะบอลิสัมอื่น ๆ ชนิดถาวรและอาจเป็นอันตราย
    7. ภาวะต่อมธัยรอยด์ทำงานมากผิดปกติ (Hyperthy roidism) เพิ่มตามกฎกระทรวงฯ ที่ 76)

9. โรคติดเชื้อ

    1. โรคเรื้อน
    2. โรคเท้าช้าง
    3. โรคติดเชื้อเรื้อรังระยะแสดงอาการรุนแรง ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

10.โรคทางประสาทวิทยา

    1. จิตเจริญล่าช้า (Mental Retardation) ที่มีระดับเชาวน์ปัญญา 69 หรือต่ำกว่านั้น
    2. ใบ้ (Mutism) หรือพูดไม่เป็นภาษาหรือฟังภาษาไม่รู้เรื่อง (Aphasia) ชนิดถาวร
    3. ลมชัก (Epilepsy) หรือโรคที่ทำให้มีอาการชัก (Seizures) อย่างถาวร
    4. อัมพาต (Paralysis) ของแขน ขา มือหรือเท้าชนิดถาวร
    5. สมองเสื่อม (Dementia)
    6. โรคหรือความผิดปกติของสมองหรือไขสันหลังที่ทำให้เกิดความผิดปกติอย่างมากในการเคลื่อนไหวของแขนหรือขาอย่างถาวร
    7. กล้ามเนื้อหมดกำลังอย่างหนัก (Myasthenia Gravis)

11. โรคทางจิตเวช (แก้ไขตามกฎกระทรวงฯ ที่ 76)

    1. โรคจิตที่มีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง
      • โรคจิตเภท (Schizophrenia)
      • โรคจิตกลุ่มหลงผิด (Resistant Delusional Disorder , Induced Delusional Disorder)
      • โรคสคิซโซแอฟเฟ็คทีป (Schizoaffective Disorder)
      • โรคจิตที่เกิดจากโรคทางกาย (Other mental disorder due to brain damage and dysfunction)
      • โรคจิตอื่น ๆ (Unspecified Ninorganic psychosis)
    2. โรคอารมณ์แปรปรวนที่มีอาการรุนแรงเรื้อรัง
      • โรคอารมณ์แปรปรวน (Manic Episode , Bipolar Affective Disorder)
      • โรคอารมณ์แปรปรวนที่เกิดจากโรคทางกาย (Other mental disorder due to brain damage and dysfunction and to Physical Disorder)
      • โรคอารมณ์แปรปรวนอื่น ๆ (Other Mood (Affective) Disorder , Unspecified Mood Disorder)
      • โรคซึมเศร้า (Depressive Disorder , Recurrent Depressive Disorder)
    3. โรคพัฒนาการทางจิตเวช
      • จิตเจริญล่าช้าที่มีระดับเชาวน์ปัญญา 70 หรือต่ำกว่า (Mental Retardation)
      • โรคหรือความผิดปกติในการพัฒนาการของทักษะทางสังคมและภาษา (Pervasive Developmental Disorder)

12. โรคอื่น ๆ

    1. กระเทย (hermaphrodism)
    2. มะเร็ง (Malignant Neoplasm)
    3. โรคตับอักเสบเรื้อรังชนิดร้ายแรง (Chronic Active Hepatitis)
    4. ตับแข็ง (Cirrhosis of Liver)
    5. คนเผือก (Albino)
    6. โรคลูปัสอิธิมาโตซัส ทั่วร่างกาย (Systemic Lupus Erythematosus)
    7. กายแข็งทั่วร่างกาย (Systemic Sclerosis)
    8. รูปวิปริตต่าง ๆ ได้แก่
      • จมูกโหว่
      • เพดานโหว่หรือสูงหรือลิ้นไก่สั้นพูดไม่ชัด
    9. โรคผิวหนังลอกหลุด ตัวผิดปกติแต่กำเนิดชนิดเด็กดักแด้ (Lamellar Ichthyosis & Congenital Ichthyosiform Erythtroderma) (เพิ่มตามกฎกระทรวงฯที่ 76)