สปสช. เพิ่มบริการการแพทย์ทางไกล ดูแล 42 กลุ่มโรคผ่านแอปสุขภาพ นำร่องพื้นที่ กทม.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพิ่มบริการการแพทย์ทางไกล ดูแล 42 กลุ่มโรคผ่านแอปสุขภาพ นำร่องพื้นที่ กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะระบบการสื่อสารที่รวดเร็ว ฉับไว และมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์ในวงกว้างรวมถึงต่อระบบสุขภาพ ส่งผลให้เกิด “บริการสาธารณสุขระบบทางไกล” หรือ “บริการการแพทย์ทางไกล” (Telemedicine) ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่าง เพิ่มการเข้าถึงบริการ ลดความแออัดหน่วยบริการ ลดเวลารอคอย และอำนวยความสะดวกในการรับบริการสอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ เพื่อช่วยลดความแออัดผู้ป่วยรับบริการที่โรงพยาบาล
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
สายด่วน สปสช. 1330
ช่องทางออนไลน์
- ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso
- Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในปัจจุบัน โดยเฉพาะระบบการสื่อสารที่รวดเร็ว ฉับไว และมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์ในวงกว้างรวมถึงต่อระบบสุขภาพ ส่งผลให้เกิด “บริการสาธารณสุขระบบทางไกล” หรือ “บริการการแพทย์ทางไกล” (Telemedicine) ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่าง เพิ่มการเข้าถึงบริการ ลดความแออัดหน่วยบริการ ลดเวลารอคอย และอำนวยความสะดวกในการรับบริการสอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ที่ผ่านมา สปสช. ได้เล็งเห็นประโยชน์ต่อผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ในปีงบประมาณ 2563 บอร์ด สปสช.จึงได้เห็นชอบบรรจุ “บริการแพทย์ทางไกล” เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท โดยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ในปีที่ผ่านมา สปสช.ยังได้จับมือกับผู้ให้บริการแอปพลิเคชันด้านสุขภาพดิจิทัล ดูแลผู้ป่วยโควิด 19 กลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย เพื่อช่วยลดความแออัดผู้ป่วยรับบริการที่โรงพยาบาล
นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า จากประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการดูแลผู้ป่วยผ่านระบบการแพทย์ทางไกลที่ผ่านมา ในปีงบประมาณ 2566 นี้ สปสช. ขยายการให้ “บริการการแพทย์ทางไกลในลักษณะผู้ป่วยนอกทั่วไป” (OP Telemedicine) ครอบคลุมรักษา 42 กลุ่มโรคและอาการ
โดยร่วมมือกับผู้ให้บริการแอปพลิเคชันด้านสุขภาพดิจิทัล จำนวน 4 แห่ง ได้แก่
- แอปพลิเคชัน Good Doctor Technology (กู๊ด ด็อกเตอร์) โดยจีดีทีคลินิกเวชกรรม
- แอปพลิเคชัน Clicknic (คลิกนิก) โดยคลิกนิกเฮลท์คลินิกเวชกรรม
- แอปพลิเคชัน Mordee (หมอดี) โดยชีวีบริรักษ์ คลินิกเวชกรรม
- แอปพลิเคชัน Saluber MD (ซาลูเบอร์ เอ็ม ดี) โดยสุขสบายคลินิกเวชกรรม เพื่อเป็นการดูแลประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท เบื้องต้นกำหนดนำร่องบริการให้ผู้ป่วยที่เจ็บป่วยเป็นโรคทั่วไปเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ “บริการการแพทย์ทางไกล” ที่ สปสช. ดำเนินการนี้เป็นการให้บริการด้านสุขภาพที่มีมาตรฐานบริการ โดยผู้ที่ร่วมให้บริการจะต้องได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล (ส.พ.7) ที่ระบุ “มีการบริการการแพทย์ทางไกล” และสามารถให้บริการการแพทย์ทางไกลได้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง มาตรฐานการให้บริการของสถานพยาบาลโดยใช้ระบบบริการการแพทย์ทางไกล พ.ศ.2564 ของกองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมมีระบบพิสูจน์ตัวตนยืนยันการใช้สิทธิผู้ป่วยก่อนรับบริการ มีแพทย์ที่พร้อมให้บริการและมีระยะเวลาของการให้บริการประมาณ 10 -15 นาทีต่อครั้ง หรือจนกว่าแพทย์จะสามารถวินิจฉัยและสั่งการรักษาได้
นอกจากนี้ผู้ให้บริการต้องมีร้านยาเครือข่ายบริการที่จัดส่งยาพร้อมทั้งให้คำแนะนำและติดตามการใช้ยาให้กับผู้ป่วยได้ตามมาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรมที่สภาเภสัชกรรมกำหนด โดยส่งยาถึงผู้ป่วยภายใน 24 ชั่วโมงหลังเข้ารับบริการในส่วนของหน่วยบริการนั้น นพ.จเด็จ กล่าวว่า มีการจัดระบบ AMED Telehealth ซึ่งเป็นระบบบริการทางการแพทย์ทางไกลที่ดำเนินการโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) รองรับ เพื่อให้ผู้ให้บริการฯ บันทึกข้อมูลการให้บริการผู้ป่วย และข้อมูลใช้ในการเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการจาก สปสช. ซึ่งผู้ป่วยจะได้รับตรวจวินิจฉัยและให้คำปรึกษาผ่านบริการการแพทย์ทางไกล ค่ายาและเวชภัณฑ์ รวมถึงการจัดส่งยาให้ผู้ป่วย ทั้งนี้คาดว่าระบบจะมีความพร้อมและให้บริการได้ในเร็วๆ นี้ โดย สปสช.จะประกาศและแจ้งให้ทราบอีกครั้ง “บริการแพทย์ทางไกลเป็นบริการสุขภาพวิถีใหม่ที่มาหนุนเสริมระบบสุขภาพหลัก โดยให้บริการรักษาพยาบาลในระดับบริการปฐมภูมิ นอกจากเพิ่มการเข้าถึงบริการให้กับผู้ป่วยแล้ว ยังเพิ่มความสะดวก ช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการบริการสุขภาพในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้กับประชาชน” เลขาธิการ สปสช. กล่าว
บริการแพทย์ทางไกลครอบคลุม 42 กลุ่มโรคและอาการ ดังนี้
- ข้อเสื่อมหลายข้อ
- ตาแดงจากไวรัส
- ตาแดงจากไวรัส ที่มิได้มีรหัสระบุรายละเอียด
- ข้อเสื่อมโดยทั่วไปปฐมภูมิ
- เนื้อเยื่ออักเสบ
- วิงเวียน มึน
- ปวดศีรษะ
- อาหารเป็นพิษจากเชื้อแบคทีเรียอื่น
- อาการท้องร่วง
- กระเพาะและลำไส้อักเสบจากการติดเชื้อ
- ไข้ไม่ทราบสาเหตุ
- ความผิดปกติของระบบการทรงตัวของหู
- โรคตากุ้งยิงและตุ่มอักเสบเรื้อรังที่หนังตา
- การอักเสบของเยื่อบุตา
- การติดเชื้อไวรัส ที่มิได้ระบุรายละเอียด
- กล้ามเนื้อเคล็ด
- ติดเชื้อไวรัสไม่ระบุตำแหน่งที่เป็น
- ข้ออักเสบข้อเดียว ที่มิได้มีระบุรายละเอียด
- เยื่อบุจมูกและลำคออักเสบเฉียบพลัน(หวัดธรรมดา)
- ไข้ ไม่ระบุชนิด
- เวียนศีรษะบ้านหมุนเฉียบพลัน แบบไม่รุนแรง
- ปวดท้องช่วงบน
- การติดเชื้อทางเดินหายใจในส่วนบนแบบเฉียบพลันหลายแห่งพร้อมกัน
- ลมพิษ
- ปวดท้อง และปวดอุ้งเชิงกราน
- เยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลัน ที่มิได้ระบุรายละเอียด
- ลมพิษ ที่มิได้ระบุรายละเอียด
- ปวดหลังส่วนล่าง
- คออักเสบเฉียบพลัน
- ต่อมทอนซิลอักเสบเฉียบพลัน
- คออักเสบเฉียบพลัน ที่มิได้ระบุรายละเอียด
- การติดเชื้อทางเดินหายใจในส่วนบนแบบเฉียบพลัน
- กระเพาะอาหารอักเสบ ที่มิได้ระบุรายละเอียด
- อาการปวดท้องอื่นๆ และอาการปวดท้องที่ไม่ระบุ
- ข้ออักเสบหลายข้อ ที่มิได้ระบุรายละเอียด
- ต่อมทอลซิลอักเสบเฉียบพลัน ที่มิได้ระบุรายละเอียด
- เยื่อจมูกอักเสบจากการแพ้ ที่มิได้ระบุรายละเอียด ปวดกล้ามเนื้อ
- เยื่อจมูกอักเสบจากการแพ้หรือการเปลี่ยนอากาศ
- ข้ออักเสบแบบอื่น
- ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน
- ไซนัสอักเสบเฉียบพลัน ที่มิได้ระบุรายละเอียด
- การติดเชื้อโควิด 19 กลุ่มสีเขียว ที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย
ที่มา : https://bit.ly/3TOwFYJ
